วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

ในการดูแลพื้นที่ คือ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ซึ่งได้เปิดช่องให้ใช้กระบวนการอบรมแทนการดำ�เนินคดีกับผู้ต้องหาที่ กระทำ�ความผิดตามที่คณะรัฐมนตรีกำ�หนดและผู้นั้นกลับใจเข้ามอบตัวต่อเจ้าหนักงาน หรือพนักงานสอบสวนได้ดำ�เนินการสอบสวนแล้วปรากฏว่าบุคคลนั้นได้กระทำ�ไป เพราะหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพื่อการเปิดโอกาสให้ผู้นั้นกลับใจมอบตัวจะเป็น ประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อพนักงานสอบสวนส่ง รายงานการสอบสวนและความเห็นไปให้ผู้อำ�นวยการกองอำ�นวยการรักษาความมั่นคง และผู้อำ�นวยการเห็นด้วยกับความเห็นของพนักงานสอบสวนผู้อำ�นวยการส่งบันทึก สำ�นวนพร้อมทั่งความเห็นไปยังพนักงานอัยการ พนักงานอัยการยื่นคำ�ร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งให้ส่งตัวให้ผู้อำ�นวยการเพื่อรับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขและ ศาลเห็นสมควรศาลจะสั่งให้ส่งผู้ต้องหานั้นให้ผู้อำ�นวยการ เพื่อเข้ารับการอบรมเป็น เวลาไม่เกินหกเดือน และศาลกำ�หนดสิทธิในคดีอาญามาฟ้องผู้ต้องหาเป็นอันระงับไป ซึ่งรัฐกำ�ลังมองถึงการหาแนวร่วมจากภาคประชาชนให้เห็นว่าภาครัฐมีมาตรการใน เชิงสมานฉันท์ไม่ลงโทษผู้ที่หลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับ การต่อรองให้ผู้ต้องหารับสารภาพเพื่อไม่ต้องฟ้องดำ�เนินคดีอาญาผู้ต้องหา (Plea Bargaining) ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ในกระบวนการยุติธรรมของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวจะมี วิธีการหรือมาตรการอย่างไรที่จะประกันว่าจะมีการชี้แจงให้สาธารณะชนได้ทราบ ในขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมายใหม่เหล่านี้หรือไม่ การดำ�เนินการมีความโปร่งใส่ตรวจสอบได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งมีขั้นตอนที่จะป้องกัน ไม่ให้มีการใช้กฎหมายโดยมิชอบ ดังที่ได้เคยเกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎอัยการศึก และพระราชกำ�หนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งได้ส่งผลให้ประชาชน สูญเสียความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไป แต่หากสามารถดำ�เนินการโดยขบวนการ ฝึกอบรมระยะไม่เกินหกเดือนโดยให้ภาคชุมชนมีส่วนร่วมและได้กระทำ�ในชุมชนจริง โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ก็จะเป็นการดึงกำ�ลังมวลชนให้เข้ามีส่วนร่วมใน การแจ้งข่าวเบาะแสในการเกิดความไม่สงบเรียบร้อยได้ดียิ่งขึ้น และประกาศใช้ของ พระราชการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ซึ่งได้กำ�หนดพื้นที่ ห้าอำ�เภอของสองจังหวัดก็เห็นว่าอาจเกิดอุปสรรคในการที่จะให้ผู้ที่หลงผิดหรือรู้เท่ามิ ถึงการณ์ ได้เข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูได้ เพราะหากเป็นผู้หลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยู่นอกพื้นที่ดังกล่าว หรือก่อเหตุนอกพื้นที่ดังกล่าวก็จะขัดกับการประกาศใช้ วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 มกราคม - ธันวาคม 2557 

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3