วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

อย่างไรก็ดี พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ไม่บัญญัติไว้อย่างชัดเจน ว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากรถจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบ อันตราย หรือเจ็บป่วยเพื่อเป็นค่าบริการทางแพทย์จากกองทุนประกันสังคมหรือไม่ แต่ อย่างไรก็ดี ในประเด็นนี้ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้แล้วว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จากรถแม้จะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถแล้ว ก็ยังคงมีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ ทดแทนในกรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยเพื่อเป็นค่าบริการทางแพทย์จากกองทุน ประกันสังคมตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 อีกทางหนึ่งด้วยทั้งนี้ ตาม คำ�พิพากษาศาลฎีกา 2110/2551 และคำ�พิพากษาศาลฎีกาที่ 2040/2539 2.3 สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ปัจจุบันหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลของข้าราชการ เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 ซึ่งมีสาระสำ�คัญดังนี้ 4 ผู้มีสิทธิ หมายความว่า (1) ข้าราชการและลูกจ้างประจำ�ซึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำ�จาก เงินงบประมาณรายจ่าย งบบุคลากรของกระทรวง ทบวง กรม เว้นแต่ข้าราชการตำ�รวจชั้น พลตำ�รวจซึ่งอยู่ในระหว่างรับการศึกษาอบรมในสถานศึกษาของสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำ� (2) ลูกจ้างชาวต่างประเทศซึ่งมีหนังสือสัญญาจ้างที่ได้รับค่าจ้างจาก เงินงบประมาณรายจ่ายและสัญญาจ้างนั้นมิได้ระบุเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลไว้ (3) ผู้ได้รับบำ�นาญปกติหรือผู้ได้รับบำ�นาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยบำ�เหน็จบำ�นาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำ�เหน็จ บำ�นาญข้าราชการ และทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยเงินเบี้ยหวัด 4 ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 127. ตอน 23 ก. วันที่ 2 เมษายน 2553. หน้า 1-7. ค้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557. จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/A/023/1.PDF วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 มกราคม - ธันวาคม 2557 

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3