วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 8 วรรคแรก ในการเรียกร้องตามช่องทางนี้ นอกจาก เป็นผลดีที่ได้ดำ�เนินคดีไปเสียในคราวเดียวกันแล้ว ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย อีกด้วย เพราะไม่ต้องเสียธรรมเนียม เว้นแต่เรียกเอาค่าสินไหมทดแทนสูงเกินควร หรือดำ�เนินคดีโดยไม่สุจริตตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 253 วรรคแรก 9 อย่างไรก็ตาม แม้ว่านางสาวเอเลคต้าจะมีสิทธิเป็นโจทก์หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการในคดีอาญาและเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตามกฎหมาย แต่จาก อุบัติเหตุทำ�ให้นางสาวเอเลคต้าได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถรับรู้หรือสื่อสารได้ต้อง นอนอยู่บนเตียงอยู่ตลอดเวลา จึงจำ�ต้องมีผู้จัดการแทน นางสาวเอเลคต้ามีบุตรเป็น ผู้เยาว์ สามีก็ได้เลิกร้างกันไปแล้ว ยังมีบิดามารดาอันเป็นผู้บุพการีที่มีอำ�นาจจัดการ แทนนางสาวเอเลคต้าตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5(2) 10 โดยเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย 8 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 วรรคแรก “ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ถ้าผู้เสียหาย มีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อ เสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียงหรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำ�ความผิดของจำ�เลย ผู้เสียหายจะยื่นคำ�ร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจำ�เลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนได้” 9 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 253 วรรคแรก “ในคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ซึ่งมีคำ�ร้องให้คืน หรือใช้ราคาทรัพย์สินติดมากับคำ�ฟ้องอาญาตามมาตรา 43 หรือมีคำ�ขอของผู้เสียหายขอให้บังคับจำ�เลยชดใช้ค่าสินไหม ทดแทน มิให้เรียกค่าธรรมเนียม เว้นแต่ในกรณีที่ศาลเห็นว่าผู้เสียหายเรียกค่าสินไหมทดแทนสูงเกินสมควร หรือดำ�เนินคดี โดยไม่สุจริต ให้ศาลมีอำ�นาจสั่งให้ผู้เสียหายชำ�ระค่าธรรมเนียมทั้งหมดหรือแต่เฉพาะบางส่วนภายในระยะเวลาที่ ศาลกำ�หนดก็ได้ และถ้าผู้เสียหายเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำ�สั่งศาลให้ถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องในคดีส่วนแพ่งนั้น” 10 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5 “บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้ (1) ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาล เฉพาะแต่ในความผิดซึ่งได้กระทำ�ต่อผู้เยาว์ หรือผู้ไร้ความสามารถ ซึ่งอยู่ในความดูแล (2) ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน สามีหรือภริยา เฉพาะแต่ในความผิดอาญาซึ่งผู้เสียหายถูกทำ�ร้ายถึงตายหรือ บาดเจ็บจนไม่ สามารถจะจัดการเองได้ (3) ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคล เฉพาะความผิดซึ่งกระทำ�ลงแก่นิติบุคคลนั้น” วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 มกราคม - ธันวาคม 2557
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3