วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
ตามหลักกฎหมายอิสลามโดยไม่ได้ทำ�การยกเลิก แต่ได้มีการแก้ไขด้วยการเลือก อาจารย์สอนศาสนาอิสลามที่มีคนนับถือมากเป็นดะโต๊ะยุติธรรมขึ้นไว้คณะหนึ่งราว 20 คน ถ้าคนนับถือศาสนาอิสลามเป็นความกันหรือเป็นจำ�เลยในคดีที่ต้องตัดสิน ด้วยกฎหมายทางศาสนาอิสลาม คือ ความผัวเมีย ความมรดก ให้คู่ความเลือกดะโต๊ะ ยุติธรรมที่ตั้งไว้เป็นอนุญาโตตุลาการฝ่ายละคนหรือหลายคนตามที่ตกลงกันมานั่งชำ�ระ และตัดสินคดีความในศาลทั่วไป แต่ถ้าคู่ความเป็นไทยพุทธหรือคดีประเภทอื่น ศาลทั่วไป จะเป็นผู้ชำ�ระและตัดสินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง ในระยะนี้เจ้าเมืองมีอำ�นาจในการตัดสินคดีต่าง ๆ ตามกฎหมายประเพณีอิสลาม ซึ่งมีอำ�นาจเต็มทั้งในด้านข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และการดำ�เนินกระบวนพิจารณา 2.2 การใช้กฎหมายอิสลามในระยะที่สอง ในช่วงนี้มีเหตุการณ์สำ�คัญ คือ การประกาศใช้กฎข้อบังคับสำ�หรับปกครอง บริเวณ 7 หัวเมือง ร.ศ. 120 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ร.ศ. 120 หรือ พ.ศ. 2444 ซึ่งนับว่าเป็นกฎหมายของรัฐฉบับแรกที่ได้กำ�หนดรูปแบบการใช้กฎหมายอิสลามไว้ อย่างชัดเจน โดยกำ�หนดให้ใช้กฎหมายอิสลามในคดีแพ่งที่เกี่ยวด้วยครอบครัวมรดก ในกรณีที่ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นทั้งโจทก์จำ�เลยหรือเป็นจำ�เลย ซึ่งเดิมก่อน ประกาศใช้กฎข้อบังคับสำ�หรับปกครองบริเวณ 7 หัวเมือง ร.ศ. 120 นั้น การใช้กฎหมาย อิสลามยังไม่มีขอบเขตที่แน่นอน เป็นเพียงแต่รัฐได้ยอมให้เจ้าเมืองนำ�เอากฎหมาย อิสลามพิจารณาตัดสินคดีที่เกี่ยวด้วยลัทธิศาสนาอิสลาม ตามความในกฎข้อบังคับสำ�หรับปกครองบริเวณ 7 หัวเมือง ร.ศ. 120 ข้อที่ 32 เป็นอำ�นาจของผู้พิพากษาตามหลักกฎหมายอิสลามที่เรียกว่า “กอฎี” ในภาษาอาหรับและภาษามลายู แต่ในภาษามลายูจะมีการเพิ่มคำ�ว่า “โต๊ะ” นำ�หน้า ซึ่งเป็นคำ�ที่บ่งบอกถึงการให้เกียรติ เรียกกันว่า “โต๊ะกอฎี” แต่มีการเพี้ยนคำ�เรียกว่า “โต๊ะกาลี” ต่อมา พ.ศ. 2460 มีสารตราของกระทรวงยุติธรรม ที่ 30/4353 ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2460 ดำ�เนินการตามกระแสพระบรมราชโองการให้ขยายขอบเขต การใช้กฎหมายอิสลามรวมไปถึงจังหวัดสตูล และตราสารฉบับนี้ได้กำ�หนดหลักเกณฑ์ ในการใช้กฎหมายอิสลามอย่างชัดเจนมากขึ้น ดังนี้ วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 มกราคม - ธันวาคม 2557
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3