วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

1. กำ�หนดตำ�แหน่งตุลาการฝ่ายอิสลามให้เรียกว่าดะโต๊ะยุติธรรม มีหน้าที่ เป็นผู้ปรับบทกฎหมายอิสลาม เป็นตุลาการบังคับคดีแพ่งว่าด้วยครอบครัวและมรดก ตามกฎหมายอิสลามเทียบอำ�นาจศาลแขวง 2. กำ�หนดคุณสมบัติของผู้ที่จะดำ�รงตำ�แหน่งดะโต๊ะยุติธรรมไว้ว่า ต้องเป็น ผู้ที่มุสลิมนับถือเป็นผู้กอปรด้วยวัยวุฒิควรแก่การเคารพนับถือในฐานะผู้ใหญ่มีความรอบรู้ ในหลักกฎหมายอิสลามและมีความจงรักภักดีต่อแผ่นดินเป็นตุลาการพิจารณาคดีแพ่ง ตามประเพณีอิสลาม เดิมตามกฎข้อบังคับสำ�หรับปกครองบริเวณ 7 หัวเมือง กำ�หนดคุณสมบัติ ของผู้ที่จะดำ�รงตำ�แหน่งดะโต๊ะยุติธรรมเพียงแต่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามและ รู้จักกฎหมายอิสลามก็เพียงพอแล้ว 3. การใช้กฎหมายอิสลามมีเขตอำ�นาจพิจารณาคดีเฉพาะคดีแพ่งลักษณะ ผัวเมียและมรดก โดยดะโต๊ะยุติธรรมที่ตัดสินนั้นต้องลงชื่อในการพิพากษาคดี 2 คน หรือพร้อมกับผู้พิพากษาศาลจังหวัด รวมเป็น 2 คน 4. คดีที่ต้องบังคับตามหลักกฎหมายว่าด้วยครอบครัวมรดกนั้น คู่ความ จะต้องนับถือศาสนาอิสลาม เดิมตามกฎข้อบังคับสำ�หรับปกครองบริเวณ 7 หัวเมือง เพียงแต่คู่ความที่จะ เป็นจำ�เลยนับถือศาสนาอิสลามก็สามารถบังคับตามหลักกฎหมายอิสลามได้แล้ว มีข้อสังเกตว่า ในสารตราของเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมฉบับดังกล่าว เรียก “กอฎี” ว่า “โต๊ะกาซี” และ “โต๊ะกอฎี” และกำ�หนดให้เรียกตุลาการผู้พิจารณาและตัดสิน คดีความตามกฎหมายอิสลามว่า “ดะโต๊ะยุติธรรม” แทน เทียบคำ� “เสนายุติธรรม” ในมณฑลพายัพ ในการใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก ซึ่งจะต้องนำ�มาใช้แทน บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในการยกขึ้นใช้บังคับคดีจะต้องมี ที่มาจากตำ�รากฎหมายอิสลามซึ่งเป็นภาษามลายูและภาษาอาหรับ ทำ�ให้ไม่สะดวก แก่การวินิจฉัยชี้ขาดคดี ในปี พ.ศ. 2472 กระทรวงยุติธรรมจึงได้จัดทำ�กฎหมายอิสลาม ว่าด้วยครอบครัวและมรดกขึ้น และแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2484 กฎหมายอิสลามว่าด้วย ครอบครัวและมรดกนี้เรียกว่า “หลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก” วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 มกราคม - ธันวาคม 2557 

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3