วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

ว่าด้วยครอบครัวและมรดกที่กระทรวงยุติธรรมได้จัดทำ�ขึ้นแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2484 ดังกล่าวแล้ว เป็นเพียงการรวบรวมหลักการในศาสนาอิสลามเกี่ยวกับครอบครัวและ มรดกที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน ซุนนะฮฺของท่านนบี มติเอกฉันท์ (อิจญ์มาอฺ) และหลักการเทียบเคียง (กียาส) คู่มือหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก จึงมีสถานะเช่นเดียวกับประมวลกฎหมายครอบครัวและมรดกอิสลาม ซึ่งเคยมีคำ� วินิจฉัยประธานศาลฎีกาที่ ยช.14/2542 ระหว่าง นายดาโอะ ดือเระ ผู้ร้อง วินิจฉัยว่า การร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ เมื่อปรากฏว่าผู้เยาว์เป็นอิสลามศาสนิกอยู่ใน จังหวัดนราธิวาส ต้องบังคับตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขต จังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะตาม หลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกในบรรพ 1 ลักษณะ 5 หมวด 2 อำ�นาจปกครองและอำ�นาจเลี้ยงดู ซึ่งต้องมีดะโต๊ะยุติธรรมเป็นผู้ชี้ขาดกฎหมายอิสลาม กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่คดีที่อยู่ในอำ�นาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและ ครอบครัว คำ�ว่า “หลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกในบรรพ 1 ลักษณะ 5 หมวด 2” คือ เนื้อหาตามคู่มือหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัว และมรดก ซึ่งจัดทำ�ในครั้งที่ 1 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2483 (ฉบับกระทรวงยุติธรรม) นั่นเอง คู่มือหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกมีการใช้คำ�ต่าง ๆ ตามแบบประมวลกฎหมายอื่น ๆ เช่น ข้อความเบื้องต้น บรรพ มาตรา หมวด เป็นต้น ซึ่งการใช้คำ�ต่าง ๆ เหล่านี้ อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าคู่มือหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วย ครอบครัวและมรดกนี้มีสถานะเดียวกับประมวลกฎหมายอื่น ๆ จึงมีความพยายาม แก้ไขข้อความต่าง ๆ เหล่านี้ในคู่มือให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น โดยการใช้ คำ�อื่น ๆ ที่แสดงถึงสถานภาพที่แตกต่างไปจากประมวลกฎหมายทั่วไป เช่น ใช้คำ�ว่า “ข้อ” แทนคำ�ว่า “มาตรา” เป็นต้น 2. การจัดทำ�คู่มือหลักกฎหมายอิสลามด้วยครอบครัวและมรดกครั้งที่ 1 2.1 ลำ�ดับการดำ�เนินการยกร่างคู่มือหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัว และมรดก 1) เมื่อ พ.ศ. 2472 กระทรวงยุติธรรมต้องการคำ�แปลภาษาไทย กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก จึงสั่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลมณฑลปัตตานี จัดการให้ผู้ชำ�นาญทางภาษาแปลขึ้นเป็นภาษาไทย วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 มกราคม - ธันวาคม 2557 

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3