วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

ตามให้ ซึ่งจะเป็นการขัดต่อสิทธิตามกฎหมายของคู่ความเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ สามารถบังคับการให้เป็นไปตามสิทธิของตนได้ และน�ำไปสู่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการยุติธรรมที่อาจลดน้อยลง นอกจากนั้นอุปสรรคดังกล่าวยังอาจ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ขัดขวางต่อการเจริญเติบโตทางด้านการค้า การลงทุน ด้วยเหตุนี้ที่ประชุมแห่งกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศแผนก คดีบุคคล (Hague Conference on private international law) ซึ่งมี วัตถุประสงค์ต้องการท�ำให้กฎหมายที่มีความแตกต่างกันให้มีความสอดคล้องกัน อย่างเป็นเอกรูป (Unification) (Article 1 ของธรรมนูญก่อตั้งที่ประชุม แห่งกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล) 3 จึงได้มีการ หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นหารือ เพื่อจัดท�ำร่างอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย การรับรองและบังคับตามค�ำพิพากษาของศาลต่างประเทศในคดีแพ่งและ พาณิชย์ โดยในการประชุมครั้งที่สิบของที่ประชุมแห่งกรุงเฮก 4 ได้มีมติให้จัดตั้ง คณะท�ำงานเพื่อศึกษาและจัดเตรียมร่างอนุสัญญาฉบับดังกล่าวขึ้น ซึ่งคณะ ท�ำงานชุดดังกล่าวได้อาศัยร่างที่ได้เคยมีการจัดท�ำขึ้นโดยคณะกรรมการ ของคณะท�ำงานที่ได้มีการประชุมกันในปี ค.ศ. 1962 และ 1963 เป็นพื้นฐาน ในการพิจารณา โดยในระหว่างการพิจารณายกร่างอนุสัญญาฉบับดังกล่าว ได้มีการถกเถียง และจัดท�ำข้อเสนอแนะในประเด็นต่าง ๆ หลายประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องรูปแบบของอนุสัญญา ซึ่งได้มีการพิจารณาว่าอนุสัญญาที่จะจัด ท�ำขึ้นนั้น จะให้อยู่ในรูปของอนุสัญญาแบบทวิภาคี (Bilateral Convention) หรือแบบพหุภาคี (Multilateral Convention) โดยมีตัวแทนของรัฐสมาชิก ท�ำข้อเสนอแนะเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะท�ำงานหลายฉบับ จึงท�ำให้เมื่อสิ้นสุด การประชุมครั้งที่สิบสามารถยกร่างได้เพียง 6 มาตราเท่านั้น 5 หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1966 คณะท�ำงานชุดดังกล่าวได้จัดประชุมเพื่อสรุปการยกร่าง 3 The purpose of the Hague Conference is to work for the progressive unification of the rules of private international law. 4 ระหว่างวันที่ 7 ถึง 28 ตุลาคม ค.ศ. 1964 5 R.H. Graveson, “The Tenth Session of the Hague Conference of Private International Law”, The International and Comparative Law Quarterly, Vol. 14, No. 2 (Apr., 1965), p. 529-532. วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 6 ฉบับที่ 8 กรกฎาคม 2560 - มิถุนายน 2561 6