วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
2) ของกลางประเภทที่ยึดมาเพื่อจะริบเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งได้แก่ ทรัพย์สินที่ผู้ใดท�ำหรือมีไว้เป็นความผิด เช่น ยาเสพติด ปืนเถื่อน เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งของที่บุคคลไม่อาจมีไว้ในความครอบครองได้ และต้องริบไว้ เป็นของแผ่นดิน จึงชอบที่จะยึดได้เสมอ 3) ของกลางประเภทที่ยึดมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการด�ำเนินคดีนั้น ควรใช้เป็นหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ประกอบการยึดด้วย คือ - เป็นการยึดมาเพื่อเป็นหลักฐานในการด�ำเนินคดีเท่านั้น ถ้าไม่ เกี่ยวกับประเด็นในคดีหรือไม่เป็นประโยชน์แก่คดีก็ไม่ควรยึดไว้ - มีเหตุสมควรที่จะยึดไว้ มิฉะนั้นอาจเสียหายแก่คดี - ของกลางบางอย่าง บุคคลอาจมีกรรมสิทธิ์ได้ เช่น ปืนมีทะเบียน ยานพาหนะที่ใช้ในการกระท�ำผิด จึงต้องพิจารณาด้วยว่า เจ้าของทรัพย์สิน อันแท้จริงมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการกระท�ำผิดด้วยหรือไม่ ถ้าเจ้าของที่แท้จริง มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระท�ำผิด ก็จะต้องยึดถือหลักที่ว่า “ยึดไว้เพื่อจะคืนให้ เจ้าของ” ฉะนั้น ถ้าหมดความจ�ำเป็นในคดีแล้ว ก็ควรอนุมัติคืนให้แก่เจ้าของ 4) ของกลางที่มีข้ อตกลงในการยึดหรือการเก็บรักษาระหว่ าง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกรณีพิเศษ ต้องถือปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ ข้อกฎหมายแห่งความผิดนั้น ๆ โดยเคร่งครัดเช่น วิทยุเถื่อน แร่เถื่อน ไม้เถื่อน ยาเสพติด เป็นต้น 3.4 การเก็บรักษาของกลางในคดีอาญา ข้อบังคับการเก็บรักษาของกลางกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2480 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2504 โดยแบ่งวิธีการเก็บรักษาของกลางได้เป็น 2 ส่วน คือ ราชการส่วนกลางหรือเขตนครบาล และราชการส่วนภูมิภาคหรือต�ำรวจภูธร สรุปได้ดังนี้ ก. การเก็บรักษาของกลางในส่วนกลางหรือต�ำรวจเขตนครบาลและ ในส่วนภูมิภาคหรือต�ำรวจภูธรไม่มีความแตกต่างกันมากในวิธีปฏิบัติ ปรากฏดังนี้ 1) ให้สารวัตรเป็นผู้เก็บรักษา เว้นแต่พนักงานอัยการขอให้ส่งไปให้ หรือของกลางนั้นมีระเบียบของหน่วยงานใดโดยเฉพาะ ก็ให้ปฏิบัติตามระเบียบนั้น วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 6 ฉบับที่ 8 กรกฎาคม 2560 - มิถุนายน 2561 49
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3