วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

2) ถ้าของกลางไม่ใช่ของส�ำคัญหรือด้วยความจ�ำเป็นชั่วคราว ผู้มีหน้าที่ รักษาของกลางจะมอบหน้าที่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชารักษาของกลางนั้นแทนได้ 3) เมื่อของกลางไปถึงสถานีต�ำรวจ ให้พนักงานสอบสวนจดรูปพรรณ ติดเลขล�ำดับ และน�ำเข้าห้องเก็บของกลางใส่กุญแจ หากเป็นของมีค่ามากให้ส่ง กองการเงิน ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ส่วนที่เป็นรถไม่ว่าชนิดใดให้เก็บรักษาไว้ ภายในบริเวณที่ท�ำการ โดยใช้ความระมัดระวังตรวจตราให้อยู่ในสภาพเดิม เท่าที่จะท�ำได้ 4) ถ้าเป็นของกลางที่อาจเน่าเปื่อยหรือเสียหายได้ก่อนคดีถึงศาล ให้จัดการตามสมควรเพื่อไม่ให้เน่าเปื่อยหรือเสียหาย หรือจะขายเอาเงินไปเก็บ รักษาไว้แทนก็ได้ หากไม่ใช่พยานหลักฐานส�ำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1327 วรรคสองที่บัญญัติไว้ว่า “ภายใน บทบังคับแห่งกฎหมายอาญา ถ้าทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระท�ำความผิดและ ถูกส่งไว้ในความรักษาของกรมในรัฐบาลเป็นของเสียง่าย หรือถ้าหน่วงช้าไว้ จะเป็นการเสี่ยง ความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายจะเกินส่วนกับค่าของทรัพย์สินนั้นไซร้ ท่านว่ากรมในรัฐบาลจะจัดให้เอาออกขายทอดตลาดก่อนถึงก�ำหนดก็ได้ แต่ก่อน ที่จะขายให้จัดการตามควรเพื่อบันทึกรายการอันเป็นเครื่องให้บุคคลผู้มีสิทธิ จะรับทรัพย์สินนั้นอาจทราบว่าเป็นทรัพย์สินของตน และพิสูจน์สิทธิได้ เมื่อขายแล้ว ได้เงินเป็นจ�ำนวนสุทธิเท่าใด ให้ถือไว้แทนตัวทรัพย์สิน 5) ถ้าของกลางใดจ�ำเป็นต้องพิสูจน์ ให้พนักงานสอบสวนรีบส่งไปยัง กองพิสูจน์หลักฐาน ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ พร้อมกับบันทึกแสดงรายละเอียด โดยเร็ว โดยท�ำเครื่องหมายและบรรจุหีบห่อให้เรียบร้อย และเมื่อตรวจพิสูจน์ เสร็จแล้วให้รีบไปรับคืนโดยเร็ว 6) เมื่อส่งส�ำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ โดยปกติให้ส่ง ของกลางไปด้วย เว้นแต่พนักงานสอบสวนยังจ�ำเป็นต้องใช้ในการวินิจฉัยส�ำนวน ซึ่งถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าจ�ำเป็นต้องใช้ จะเรียกให้พนักงานสอบสวนน�ำส่งไป ตรวจดูก่อนแล้วส่งคืนไปให้พนักงานสอบสวนรักษาไว้ก่อนส่งศาลก็ได้ วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 6 ฉบับที่ 8 กรกฎาคม 2560 - มิถุนายน 2561 50

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3