วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
มีไว้เป็นความผิดนั้นย่อมไม่ปัญหาเนื่องจากเป็นสิ่งของที่เอกชนหรือบุคคลทั่วไป ย่อมไม่อาจมีไว้ในความครอบครอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม ทางอาญา บทสรุปและข้อเสนอแนะ ผู้เขียนบทความเห็นว่าสิ่งของอื่นที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ซึ่งเป็นสิ่งของ ที่เอกชนหรือประชาชนทั่วไปย่อมสามารถยึดถือครอบครองได้โดยปกติหรือ โดยกฎหมายอนุญาตให้ยึดถือ ครอบครองได้ เช่น ปืนมีทะเบียน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นต้น แต่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานต�ำรวจได้ยึด หรืออายัดไว้เป็นของกลางระหว่างการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม ทางอาญา คือ สิ่งของจ�ำพวกที่ได้มาโดยการกระท�ำผิด เช่น ทรัพย์ที่ถูกคนร้าย ลักเอามาจากเจ้าทรัพย์ เป็นต้น หรือได้ใช้หรือสงสัยว่าได้ใช้ในการกระท�ำผิด เช่น รถที่ใช้เป็นยานพาหนะในลักทรัพย์ เป็นต้นหรือสิ่งของซึ่งอาจใช้เป็นพยาน หลักฐานได้ สิ่งของดังกล่าวเมื่อได้ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วสามารถคืน ส่งคืน ส่งมอบแก่เจ้าของหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องหรือผู้มีสิทธิครอบครองหรือส่งมอบ ให้เจ้าของหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องหรือผู้มีสิทธิครอบครองเก็บรักษาระหว่างคดีได้ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นต้นแต่เมื่อเจ้าของมีสิทธิเรียกร้องหรือ ผู้มีสิทธิครอบครองไม่ใช้สิทธิขอรับคืนหรือไม่ขอรับไปเก็บรักษาระหว่างคดี หรือ รับช้าหรือไม่ท�ำตามเงื่อนในการรับไปเก็บรักษาตามมาตรา 85/1 แห่งประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งในระหว่างนั้นสิ่งของดังกล่าวก็ยังอยู่ครอบครอง ของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดความเสียหาย สูญหาย อันเกิดจากเรื่องกระบวนการ ใช้อ�ำนาจบริหารจัดการในการเก็บสิ่งของต่อเนื่องจากการใช้กระบวนการยุติธรรม ทางอาญา หากใช่การใช้อ�ำนาจในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยตรงไม่ เมื่อเจ้าของหรือผู้มีสิทธิครอบครองได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายน�ำคดี มาฟ้องต่อศาลปกครอง แต่ปัจจุบันศาลปกครองไม่รับค�ำฟ้องเพียงเพราะเกิด จากกระบวนการยุติธรรมทางอาญาซึ่งหากพิจารณาในเนื้อหาเป็นสาระส�ำคัญของ คดีว่าเป็นการฟ้องคดีเกี่ยวกับเรื่องใด กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องโต้แย้งการกระท�ำ วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 6 ฉบับที่ 8 กรกฎาคม 2560 - มิถุนายน 2561 63
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3