รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ

72 สัญญาทางปกครองจึงเป็นการกระทาทางปกครองที่มีลักษณะเป็นสัญญาที่ฝุายปกครองทาขึ้นเพื่อ ประโยชน์ในการจัดทาบริการสาธารณะซึ่งอยู่ในอานาจหน้าที่ของฝุายปกครอง ดังนั้น สัญญาใดจะเป็น สัญญาทางปกครองตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี ปกครอง พ.ศ. 2542 ประการแรก พิจารณาว่าคู่สัญญาอย่างน้อยฝุายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเป็นบุคคลซึ่ง กระทาการแทนรัฐ ประการที่สองสัญญานั้นมีลักษณะเป็น (1) สัญญาสัมปทาน (2) สัญญาที่ให้จัดทาบริการสาธารณะ (3) สัญญาจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือ (4) สัญญาให้แสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากสัญญาทั้งสี่ประเภทตามที่กฎหมายกาหนดให้เป็นสัญญาทางปกครองแล้วยังมีสัญญา ประเภทอื่นๆ ที่ถือว่าเป็นสัญญาทางปกครองตามมติของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 6/2544 วันที่ 10 ตุลาคม 2544 หากสัญญาดังกล่าวนั้นมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ (1) สัญญาที่หน่วยงานทางปกครองหรือบุคคลซึ่งกระทาการแทนรัฐตกลงให้คู่สัญญาอีกฝุายหนึ่ง เข้าดาเนินการหรือเข้าร่วมดาเนินการบริการสาธารณะโดยตรง (2) สัญญาที่มีข้อกาหนดในสัญญาซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แสดงถึงเอกสิทธิ์ของรัฐ ทั้งนี้เพื่อให้การใช้ อานาจทางปกครองหรือการดาเนินกิจการทางปกครองซึ่งก็คือการบริการสาธารณะบรรลุผล ดังนั้นหากสัญญาใดเป็นสัญญาที่หน่วยงานทางปกครองหรือบุคคลซึ่งกระทาการแทนรัฐมุ่ง ผูกพันตนกับคู่สัญญาอีกฝุายหนึ่งบนพื้นฐานแห่งความเสมอภาคโดยสมัครใจ และมิได้มีลักษณะดังกล่าว ข้างต้นสัญญานั้นย่อมเป็นสัญญาทางแพ่งไม่ใช่สัญญาทางปกครอง การเลิกสัญญาทางปกครอง นอกปรากฏไว้ในกฎหมายเฉพาะแล้ว ยังปรากฏหลักกฎหมาย ทั่วไปเกี่ยวกับการสิ้นสุดของสัญญาทางปกครองว่า สัญญาทางปกครองอาจสิ้นสุดลงได้ด้วยเงื่อนไขอย่าง ใดอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 ประการ คือ ประการแรก สัญญาทางปกครองสิ้นสุดลงปกติ เมื่อคู่สัญญาบรรลุ วัตถุประสงค์ของสัญญา และประการที่สอง สัญญาทางปกครองสิ้นสุดลงด้วยการเลิกสัญญา ซึ่งการเลิก สัญญาทางปกครองดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ใน 4 กรณี ดังนี้ (1) การเลิกสัญญาโดยความยินยอมของทั้งสองฝุาย (2) การเลิกสัญญาเมื่อสัญญาเลิกกันโดย ปริยาย (3) การเลิกสัญญาเมื่อศาลมีคาพิพากษาหรือคาสั่งให้เลิกสัญญา (4) การเลิกสัญญาโดยคู่สัญญา ฝุายปกครองเลิกสัญญาฝุายเดียวและการบอกเลิกสัญญาทางปกครองของคู่สัญญาฝุายเอกชนโดยทาให้ การบริการสาธารณะต้องหยุดชะงักไม่บรรลุวัตถุประสงค์จึงไม่อาจกระทาได้ [6]