รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ
216 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา ( Statement of the problems) ในปัจจุบันปริมาณของสุนัขจรจัดที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลสารวจสุนัขทั่วประเทศไทย โดย สานักควบคุมป้องกัน และบาบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้แสดงให้เห็นว่า จานวนสุนัขที่ไม่มีเจ้าของใน ปี 2557 จานวน 722,625 ตัว และในปี 2559 มีจานวน 758,446 ตัวเพิ่มมากขึ้นกว่า 35,000 ตัว ใน ระยะเวลาเพียง 2 ปี [1] ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงสัตว์เหล่านั้นที่ ขาดความรับผิดชอบ การดูแลที่ไม่เหมาะสมละเลยหน้าที่หรือนาไปสู่การนาสัตว์ไปปล่อยตามพื้นที่ ต่างๆส่งผลให้สัตว์เลี้ยงจรจัดมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยอัตราสุนัขจรจัดในประเทศมีเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องและกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไม่ว่าจะเป็นที่วัดโรงเรียนมหาวิทยาลัยสถานที่ ราชการสวนสาธารณะชุมชนและข้างถนน ซึ่งการที่สัตว์เหล่านั้นถูกทอดทิ้งถือเป็นการทาให้เกิดปัญหา ต่อสังคมตามมาซึ่งสภาพปัญหาจากสุนัขจรจัดเหล่านั้น ที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อยู่อาศัย บริเวณนั้น หรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทาของสัตว์นั้น เช่น เสียงดังกลิ่นเหม็นการ โดนทาร้ายได้รับบาดเ จ็บหรืออันตรายถึงชีวิตด้วยโ รคที่เกิดจากสัตว์นั้นเป็นพาหะหรือ โรคพิษสุนัขบ้านั้นผู้ที่ถูกกระทาหรือได้รับผลกระทบจากสุนัขจรจัดซึ่งไม่มีเจ้าของหรือไม่มีบุคคลใด หรือหน่วยงานใดมารับผิดชอบอย่างชัดเจนแก่ผู้ได้รับผลกระทบนั้น สุนัขจรจัดถูกมองว่าเป็นปัญหาสังคมที่สร้างผลกระทบด้านต่างๆมากมาย ทั้งเห่าหอนสร้าง มลภาวะทางเสียง วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถเสี่ยงทาให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนคุ้ยขยะสกปรกเ รี่ยราด ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่สาคัญยังถูกมองเป็นพาหะทาให้เกิดโรคระบาด โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้า [2] ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้า เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์เป็นไปได้ใน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น ชะนี กระรอก กระแต กระต่าย หรือแม้กระทั่งสัตว์เศรษฐกิจ เช่น วัว ควาย แพะ เป็นต้น แต่พบมากที่สุดในสุนัข มากถึงร้อยละ 95 และรองลงมาคือ แมว [3] สาหรับ ปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าซึ่งเป็นปัญหาสาคัญของประเทศไทยเนื่องจากยังไม่มีทางรักษาโรคนี้ ผู้ป่วยต้องเสียชีวิตโดยมีสุนัขเป็นต้นเหตุที่สาคัญทาให้ประชาชนบางส่วนได้รับความเดือดร้อนจาก ปัญหาดังกล่าว ที่เกิดจากสุนัขจรจัดซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของจึงไม่ได้รับการดูแลที่ดีและ เหมาะสมในการควบคุมให้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมโดยที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและทาหมัน ดังนั้นเมื่อสัตว์จรจัดเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของไปก่อให้ความเดือดร้อนและมีผู้ได้รับผลกระทบจากความ เดือดร้อนนั้นผู้ได้รับผลกระทบอาจไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทาที่เกิดขึ้นจากสัตว์ เหล่านั้นซึ่งไม่มีบุคคลหรือหน่วยงานใดมารับผิดชอบอย่างชัดเจนทาให้ปัญหาดังกล่าวนี้ยังคงมีให้เห็น
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3