รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ

236 การนาหลักความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิตมาบังคับใช้เป็นกฎหมายเพื่อ บริหารจัดการขยะของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ The Implementation of the Extended Producer Responsibility Approach (EPR) with Thailand’s Law Enforcement for the Efficient Waste Management อมรรัตน์ อามาตเสนา 1 Amonrat Ammartsena 1 บทคัดย่อ บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการนาหลักความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility (EPR)) มาบังคับใช้เป็นกฎหมายเพื่อบริหารจัดการขยะของ ไทย ซึ่งเดิมเป็นอานาจหน้าที่ของ อปท. แต่ด้วยประเภทของขยะที่มีความหลากหลาย ทาให้การจัดการ ขยะทาได้ยากและก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จึงมีความจาเป็นต้องดึงเอาขยะบางจาพวกออกมา จากความรับผิดชอบของ อปท. โดยความสาคัญของการนาหลัก EPR มาใช้ในการบริหารจัดการของ เสียที่มาจากผลิตภัณฑ์ถูกนามาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในกฎหมายของสหภาพยุโรป ซึ่งมีนัยยะสาคัญ ว่า“เมื่อใดก็ตามที่สามารถทาให้ผู้ผลิตมีความรับผิดชอบตามกฎหมายในการเรียกคืนและรีไซเคิล ผลิตภัณฑ์ได้ เมื่อนั้นผู้ผลิตย่อมจะพยายามคิดค้นวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงที่ทาให้ เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากผลิตภัณฑ์ของเขาเอง” สาหรับประเทศไทย ปัจจุบันไม่พบว่า มีการนาหลักการ EPR มาใช้กับกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการของเสียฉบับใด ซึ่งการกาหนดให้ EPR เป็น เครื่องมือหนึ่งที่สามารถนามาใช้เพื่อช่วยในการบริหารจัดการขยะ ผ่านการกาหนดนโยบาย กฎหมาย และแผนงานในการเตรียมความพร้อมโครงการของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะส่งผลให้เกิดการขยาย ความรับผิดชอบของผู้ผลิตต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การกระจายสินค้า การรับ คืน การเก็บรวบรวม การใช้ซ้า การนากลับมาใช้ใหม่และการบาบัด มาตรการดังกล่าวจะช่วยลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลงและที่สาคัญยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บริโภค ร้านค้าปลีก และรัฐบาล โดยเฉพาะ อปท. ในการลดปัญหาการกาจัดขยะที่ยังไม่ถูกต้องเหมาะสมลงได้ คาสาคัญ: กฎหมาย, การจัดการขยะ, หลักความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต 1 อาจารย์, มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นครศรีธรรมราช 80000 1 Lecturer, Walailak University Nakhon Sithammarat 80000

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3