รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ

20 ผลตอบแทนที่เหมาะสมในฐานะบริษัทที่พึงมีในเชิงธุรกิจ ซึ่งอาจจะขัดแย้งกับบทบาทของบริษัทมหาชน จากัดที่มีหน้าที่ต้องพัฒนาประสิทธิภาพให้เกิดการแข่งขันกับองค์กรเอกชนอื่นเพื่อให้มาซึ่งผลตอบแทนแก่ ผู้ถือหุ้น และนอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดปัญหาจากการที่รัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชนต้อง ปฏิบัติตามกฎหมายมหาชนต่าง ๆ นั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหากับรัฐวิสาหกิจดังกล่าวในการประกอบกิจการ ดังเช่นเอกชนรายอื่น [11] 3.1 ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงาน กรณี พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นกฎหมายกาหนดขั้นตอนวิธีการ ออกคาสั่งทางปกครองนั้นไม่ได้กาหนดนิยามรัฐวิสาหกิจไว้ชัดเจน ก่อให้เกิดความสับสนว่ารัฐวิสาหกิจใน รูปแบบของบริษัทที่มีพระราชกฤษฎีกากาหนดอานาจ สิทธิประโยชน์ของบริษัทยังจะต้องดาเนินการตาม กฎหมายฉบับนี้หรือไม่ และกรณีมาตรา 20 (8) และ (11) แห่งพ.ร.บ.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติพ.ศ. 2561 ซึ่งกาหนดให้บริษัทมหาชนจากัดที่มาจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วย ทุนรัฐวิสาหกิจยังคงต้องเสนอโครงการพัฒนาหรือแผนงานให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณา ก่อให้เกิดผลกระทบในแง่ของความเป็นอิสระในการบริหารงาน เนื่องจากหลักเกณฑ์ดังกล่าว ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์ให้รัฐวิสาหกิจที่ผ่านการแปรรูปมีการ บริหารได้อย่างคล่องตัวภายใต้การบริหารงานอย่างเอกชนตามป.พ.พ. และพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจากัด พ.ศ. 2535 การบริหารงานของในรูปแบบของบริษัทนั้นเป็นการบริหารงานผ่านทางคณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้น มิใช่การที่คณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้นมีมติในเรื่องการลงทุนของกิจการแล้วยังต้องผ่าน ขั้นตอนการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายฉบับนี้อีก อันเป็นการสร้างขั้นตอนที่ซ้าซ้อนในการ ปฏิบัติงาน และหากรัฐวิสาหกิจต้องนาเสนอข้อมูลการลงทุนของรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ และมีผลกระทบต่อการดาเนินธุรกิจและราคาหุ้นต่อสภาการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาแล้ว การนาข้อมูลดังกล่าวไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและบุคคลทั่วไปย่อมส ามารถ เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการประมาณการนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อการ ดาเนินธุรกิจตามสภาวะการแข่งขันและอานาจในการเจรจาต่อรอง ตลอดจนราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าว ด้วย พ.ร.บ.การพัฒนาการกากับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562 ซึ่งได้บัญญัติให้มีแผนพัฒนา รัฐวิสาหกิจซึ่งมีระยะเวลาครั้งละ 5 ปี เพื่อกาหนดเป้าหมายในการพัฒนารัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับ แนวนโยบายแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ