รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ
21 ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ กฎหมายฉบับนี้ทาให้รัฐวิสาหกิจในรูปแบบของ บริษัทมีหน้าที่ต้องนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกรอบนโยบายการพัฒนาและทิศทางการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ต่อกระทรวงเจ้าสังกัดเพื่อจัดทาแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจซึ่งอาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลภายในขององค์กร บุคคลอื่นทราบ ซึ่งกระทบต่อการแข่งขันกับเอกชนรายอื่น นอกนี้แล้ว บริษัทยังต้องดาเนินการจัดทา ยุทธศาสตร์ชาติตาม พ.ร.บ.การจัดทายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้กาหนดนิยาม รัฐวิสาหกิจเอาไว้อย่างชัดเจน ทาให้บริษัทในเครือที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่ได้ดาเนินกิจการที่เป็น ภารกิจหลักดังเช่นรัฐวิสาหกิจแม่จะต้องภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ นอกจากบริษัทจะต้องจัดทา แผนการพัฒนาองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจแล้ว บริษัทยังมีภาระในการจัดทาแผนพัฒนา องค์กรและทิศทางการลงทุนให้สอดคล้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยุทธศาสตร์ชาติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนพัฒนาประเทศ และหลักวินัยการเงิน การคลังของประเทศ อาจเกิดปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินการในเรื่องนี้ เนื่องจากบริษัทจะไม่มี ความรู้และความเข้าใจเพียงพอเกี่ยวกับกฎหมายมหาชนหรือข้อบังคับที่กาหนดไว้ และการดาเนินการใน เรื่องนี้อาจขัดแย้งกับการประกอบกิจการก็เป็นได้ 3.2 ปัญหาทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งตั้งกรรมการและผู้บริหาร พ.ร.บ.กาหนดคุณสมบัติมาตรฐานสาหรับกรรมการและพนักงานของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 ซึ่ง กาหนดนิยามรัฐวิสาหกิจให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมไปถึงรัฐวิสาหกิจรูปแบบบริษัทที่หน่วยงานของรัฐและ หรือรัฐวิสาหกิจถือหุ้นถึงสองในสามนั้น นายเทวินทร์ วงศ์วานิช อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จากัด (มหาชน) ได้อธิบายว่ากรณีนี้ได้ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ กล่าวคือ กรณีการแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจในรูปแบบของบริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์และบริษัทลูกซึ่งรัฐวิสาหกิจถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 66 ตามนิยามของกฎหมายฉบับนี้ ส่งผลทา ให้รัฐวิสาหกิจไม่สามารถแต่งตั้งผู้บริหารในบริษัทลูกโดยคัดเลือกจากพนักงานของรัฐวิสาหกิจได้ แต่ จะต้องดาเนินขั้นตอนกระบวนการสรรหาตามมาตรา 8 จัตวาของกฎหมายฉบับนี้ก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่ม ภาระให้กับหน่วยงาน และอาจส่งผลกระทบส่งผลกระทบต่อดาเนินงานของบริษัทในเครือ หากได้ผู้ดารง ตาแหน่งจากภายนอกซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานของบริษัทในเครือดีพอ จึงควรยกเว้นใน กรณีการแต่งตั้งผู้บริหารในบริษัทลูกเพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถให้จัดส่งผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่อง ที่ดารงตาแหน่งไปดารงตาแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทลูกได้ และกรณีลักษณะต้องห้ามของผู้บริหาร ตามมาตรา 8 ตรี (12) ของพระราชบัญญัตินี้ที่ให้ ผู้จะดารงตาแหน่งผู้บริหารจะต้องไม่เป็นหรือภายใน ระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ต้องไม่เคยเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารหรือผู้มีอานาจในการจัดการ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3