รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ

22 หรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของ รัฐวิสาหกิจนั้น เว้นแต่การเป็นประธาน กรรมการ หรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมาย ของรัฐวิสาหกิจนั้น มักจะเป็นอุปสรรคในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมในการดารง ตาแหน่งกรรมการ เนื่องจากบุคคลที่เหมาะสมในการดารงตาแหน่งนี้มักจะเคยได้รับการแต่งตั้งเป็น กรรมการหรือผู้บริหารหรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคลซึ่งประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการรัฐวิสาหกิจที่ สรรหาผู้บริหาร บทบัญญัตินี้จึงเท่ากับเป็นการตัดโอกาสบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการดารง ตาแหน่งในรัฐวิสาหกิจ ในกรณีนี้มีกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตกาหนดบทลงโทษ การดาเนินการที่เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและผลประโยชน์ส่วนรวมอยู่แล้วหรือมี ลักษณะทุจริตต่อหน้าที่ จึงไม่จาเป็นต้องกาหนดลักษณะต้องห้ามนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังมีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งกาหนดบทบัญญัติบางประการครอบคลุมถึงรัฐวิสาหกิจและกาหนดให้ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอานาจหน้าที่และความ รับผิดชอบและตลอดจนกาหนดบทลงโทษต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ปรากฏว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ได้ มีการระบุว่า รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายฉบับนี้ให้อ้างอิงกฎหมายกับหมายใด ก่อให้เกิดปัญหาในการตีความ บังคับใช้กฎหมาย เนื่องจาก รัฐวิสาหกิจในรูปแบบของบริษัทมหาชนจากัดอย่างเช่นบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) ถือหุ้นในบริษัทลูกเป็นจานวนมากและเข้าข่ายที่จะมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจตามพ.ร.บ.วิธีการ งบประมาณ พ.ศ. 2502 และพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ฉะนั้น จึงมีประเด็นต้องพิจารณา เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจของกฎหมายฉบับนี้ว่า แม้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หมวด 5 การดาเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และหมวด 6 การดาเนินการ เกี่ยวกับขัดกันแห่งประโยชน์ส่วนบุคคลและส่วนรวมนั้นจะได้มีประกาศชัดเจนให้อ้างอิงนิยามรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณก็ตาม แต่การอ้างอิงรัฐวิสาหกิจในหมวดอื่นของพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ยังคงอ้างอิงนิยามรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกัน หรือไม่? และกรณีตามมาตรา 136 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งกาหนดว่า “เมื่อผู้บังคับบัญชาของเจ้าพนักงานของรัฐมีคาสั่งให้ดาเนินการสอบสวน ทางวินัยแก่เจ้าพนักงานของรัฐในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ให้แจ้งให้คณะกรรมการป.ป.ช. ทราบ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีคาสั่ง ในกรณีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะสั่งให้ผู้บังคับบัญชารายงานความ คืบหน้าและผลของการดาเนินการ หรือจะให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดาเนินการต่อไปก็ได้” จะใช้นิยามรัฐวิสาหกิจตามที่กาหนดไว้ในพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 อันจะส่งผลให้ผู้บริหาร

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3