รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ

39 และนอกจากนี้อนุสัญญาแรมซาร์ยังให้ความส้าคัญเป็นอย่างมากกับการมีส่วนร่วมของภาค ประชาชน ซึ่งหากประเทศไทยสามารถออกบทบัญญัติทางกฎหมายในการอนุรักษ์และคุ้มครองพื้นที่ชุ่มน้้า ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอนุสัญญาแรมซาร์ โดยปรับให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทยและเน้น การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นของภาคประชาชนให้มากที่สุด ก็จะส่งผลให้แนวทางในการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมถึง พื้นที่ชุ่มน้้าในประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน เอกสารอ้างอิง (References) [1] มีชัย วรสายัณห์. (2535). มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม . กรุงเทพ: โอเดียสโตร์. [2] ศันสนีย์ ชูแวว. (2557). คู่มือการเรียนรู้แนวทางและรูปแบบการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่ม น้้าและทรัพยากรในพื้นที่ชุ่มน้้า . กรุงเทพฯ: อินทิเกรเต็ด โปรโมชั่น เทคโนโลยี. [3] Ramsar Convention Secretariat. (2018). GLOBAL WETLAND OUTLOOK; State of the world’s wetlands and their services to people 2018. Gland, Switzerland. [4] ส้านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2564). พื้นที่ชุ่มน้้าของไทย. สืบค้น จา กhttp://wetlands.onep.go.th/wetland/wetlandforthai/status/about [5] Ramsar convention. (1971). Convention on Wetlands of International Importance especially as Waterfowl Habitat. [6] ส้านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2557). แผ่นพับรู้ไว้ใช่ว่าพื้นที่ชุ่มน้้า. [7] สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย. (2560 ). โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ จัดการพื้นที่ชุ่มน้้าของประเทศไทย . ปทุมธานี. [8] นิรวาน พิพิธสมบัติ. (2548). อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้้า. รายงานการประชุมความหลากหลายทาง ชีวภาพด้านป่าไม้และสัตว์ป่า: ความก้าวหน้าของผลงานวิจัย และกิจกรรมปี 2548 . (หน้า 49). เพชรบุรี. [9] นักสิทธิ์ สังข์จันทร์. (2559). อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention). เอกสารประกอบการเสนอ พื้นที่ชุ่มน้้าแม่น้้าสงครามตอนล่าง ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่แรมซาร์ไซต์. หน้า 1-23.

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3