รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้งที่-1-ภายใ

48 ตารวจ) จานวน 6 คน ต่อมาด้วยผลของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 88/2557 ดังกล่าวก็ เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการตารวจครั้งใหม่ กล่าวคือ ให้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติเป็นรองประธานฯ นอกจากนั้นยังมีเลขาธิการ คณะกรรมการ-ข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จเรตารวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติเป็น กรรมการฯ โดยตาแหน่ง ส่วนกรรมการข้าราชการตารวจ มีผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการเลือกจากวุฒิสภา จานวน 2 คน โดยมีผู้บัญชาการสานักงานคณะกรรมการข้าราชการ ตารวจเป็นเลขานุการ และรองผู้ บัญชาการสานักงานคณะกรรมการข้าราชการตารวจเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ประกอบกับคาสั่งดังกล่าวระบุ ให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติเป็นผู้ที่เสนอชื่อผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติคนใหม่ต่อคณะกรรมการนโยบาย ตารวจแห่งชาติ นอกจากนั้นยังมีคาสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 21/2559 ให้อานาจผู้ บัญชาการตารวจแห่งชาติเป็นผู้สั่งแต่งตั้งข้าราชการตารวจตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการถึงผู้กากับ และ คาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2559 ให้ยกเลิกตาแหน่งพนักงานสอบสวน และ ให้ยกเลิกเงินตาแหน่งพนักงานสอบสวน รวมถึงการยกเลิกให้ตาแหน่งพนักงานสอบสวนให้ไม่ต้องมี ตาแหน่งเฉพาะ [7] ผลของการประกาศดังกล่าวอาจจะยิ่งทาให้สังคมตั้งคาถามว่าการเปลี่ยนแปลง ดังกล่าวจะทาให้การบริหารราชการแบบตามลาดับขั้นแนวดิ่ง ถูกเปลี่ยนเป็นการบริหารตามความต้องการ ของประชาชนในแต่ละพื้นที่ในลักษณะราชการแนวราบได้อย่างไร อย่างไรก็ตามประกาศคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ ที่ 111/2557 แก้ไขเพิ่มพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ ได้กาหนดประเด็นเกี่ยวกับการมี ส่วนร่วมของท้องถิ่นโดยมุ่งเน้นการปฏิบัติราชการให้เกิดความเหมาะสม ตอบสนองชุมชนและท้องถิ่นใน แต่ละในพื้นที่รวมถึงให้องค์กรภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการ ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตารวจก็เป็นผลให้การปฏิบัติราชการของตารวจมีระบบการตรวจสอบ ถ่วงดุลที่เป็นรูปธรรมขึ้น [8] นอกจากนี้ ตั้งแต่พุทธศักราช 2557 เป็นต้นมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ พยายามปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรตารวจโดยการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตารวจ และมี คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างตารวจดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ชุด โดยในช่วงพุทธศักราช 2557 - 2560 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิรูปตารวจ ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 จานวน 4 คณะ ดังนี้ [9] คณะที่ 1 คณะกรรมาธิการ ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของสภาการตารวจโดยระบุให้จัดการโครงสร้างองค์กร อานาจ หน้าที่ การบริหารราชการของตารวจที่เหมาะสม ปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มุ่งปฏิรูปในรายงานวาระการ ปฏิรูปตารวจได้กล่าวถึงการวางรากฐานการปฏิรูปตารวจสองประเด็น กล่าวคือ ประเด็นที่ 1 การปฏิรูป องค์กรตารวจให้มีความเป็นอิสระและปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง และการปรับเปลี่ยน

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3