รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้ง-2-เล่ม-1
23 1. กระทาความผิดฐานฉ้อโกงต้องมีการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง อาจกระทาด้วยทางวาจา กิริยาท่าทาง ลายลักษณ์อักษร หรือวิธีการอื่น ๆ ก็ได้ไม่จากัดเฉพาะทางวาจาเท่านั้น 2. ข้อความนั้นต้องเป็นเท็จเป็นได้ทั้งเหตุการณ์ในอดีตหรือปัจจุบันไม่ใช่เหตุการณ์ในอนาคต หากเป็นเหตุการณ์ในอนาคตต้องเป็นเหตุการณ์ที่ทาให้เข้าใจได้ว่าเป็นการแสดงถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันรวมอยู่ ด้วย 3. ผู้กระทาความผิดฐานฉ้อโกงต้องรู้ว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ และต้องเป็นการกล่าวยืนยัน ข้อความนั้น มิใช่เป็นการแสดงความคิดเห็น หรือการคาดคะเน หรือเพียงให้คามั่นสัญญา 4. การแสดงข้อความอันเป็นเท็จนั้น อาจเป็นความเท็จแต่เพียงบางส่วนก็เป็นความผิดฐาน ฉ้อโกง 5. การแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือการหลอกลวงนั้น ต้องกระทาก่อนที่จะได้ทรัพย์สินจาก ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม 6. ผู้ที่หลอกลวงหยิบเอาทรัพย์นั้นไปเองหรือหลอกลวงเพื่อให้ทาการลักทรัพย์ได้สะดวกขึ้น เท่านั้นเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ไม่ใช่ฉ้อโกง 7. การปกปิดความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง คือ จะต้องรู้ความจริงแล้วนิ่งเสียไม่ยอมบอกให้เขา ทราบเพื่อจะให้ได้ทรัพย์สิน ฯ อาจกระทาโดยกิริยา ท่าทาง หรืออย่างอื่น ๆ ก็ได้ 8. การหลอกลวงนั้นต้องทาให้เขาหลงเชื่อและได้ไปซึ่งทรัพย์สิน หรือทาให้เขาทา ถอน หรือ ทาลายเอกสารสิทธิ ก็เป็นความผิดสาเร็จแล้ว หากให้เพราะความสงสาร หรือเพื่อจะเอาเป็นพยานหลักฐานใน การฟ้องคดี หรือไม่เชื่อจึงไม่ให้ทรัพย์หรือเชื่อแต่ไม่ให้ทรัพย์หรือไม่มีทรัพย์จะให้ ดังนี้ เป็นเพียงความผิดฐาน พยายามฉ้อโกง 9. การได้ทรัพย์สินหรือให้ทา ถอน หรือทาลายเอกสารสิทธินั้น ไม่จากัดว่าจะต้องได้ไปจากผู้ ลูกหลอกลวง แต่รวมถึงบุคคลที่สามด้วย 10. ความผิดฐานฉ้อโกง การได้ทรัพย์นั้น ไม่จากัดเฉพาะทรัพย์แต่อย่างเดียว แต่ รวมถึง ทรัพย์สิน สิทธิบาง อย่างและให้ทา ถอน หรือทาลายเอกสารสิทธิด้วย 11. ในกรณีที่ให้ทา ถอน หรือทาลายเอกสารนั้น ต้องเป็นเอกสารสิทธิ ถ้าไม่ใช่เอกสารสิทธิ เป็นเอกสารธรรมดา ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง 12. ความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทาต้องมีเจตนาทุจริตมาก่อนหรือในขณะหลอกลวงอันเป็นเหตุ ให้ได้ทรัพย์นั้น ถ้าผู้กระทามีเจตนาทุจริตขึ้นในภายหลังไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง แต่ผิดฐานยักยอก 13. ความผิดฐานฉ้อโกงนั้น ต้องหลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้อื่น การหลอกลวงเอาทรัพย์ของ ตนเองไปจากผู้อื่นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง 14. ความผิดฐานฉ้อโกง ต้องเป็นการหลอกลวงให้เขาส่งทรัพย์ให้ แต่การหลอกลวงเพื่อเอา ทรัพย์ไปส่งคืน แม้เป็นเท็จก็ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3