รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้ง-2-เล่ม-1

518 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับประชากรศาสตร์ ลักษณะทางด้านประชากรศาสตร์ เป็นความหลากหลายด้านภูมิหลังของบุคคล ซึ่งได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ลักษณะโครงสร้างของร่างกาย ความอาวุโสในการทํางาน เป็นต้น โดยจะแสดงถึง ความเป็นมาของ แต่ละบุคคลจากอดีตถึงปัจจุบัน ในหน่วยงานหรือในองค์กรต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย พนักงานหรือบุคลากรใน ระดับต่าง ๆ ซึ่งมีลักษณะพฤติกรรมการแสดงออกที่แตกต่างกัน มีสาเหตุมาจากความแตกต่างทางด้าน ประชากรศาสตร์หรือภูมิหลังของบุคคลนั่นเอง (วชิรวัชร งามละม่อม, 2558) ทฤษฎีประชากรศาสตร์หมายถึง ศาสตร์วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับประชากร คําว่า “Demo” หมายถึง “People” แปลว่า ประชาชน หรือ ประชากร “Graphy” หมายถึง “Writing Up” หรือ “Description” แปลว่าลักษณะ ดังนั้น Demography จะมีความหมายว่าวิชาที่เกี่ยวข้องกับ ประชากร ซึ่งประกอบไปด้วย เพศ อายุการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น อาชีพ รายได้ เชื้อชาติเป็นต้น (กอบกาญจน์ เหรียญ ทอง, 2556) ศิริวรรณ เสรีรัตน์ (2538) ได้ให้คําจํากัดความว่าหมายถึง ลักษณะทางประชากรศาสตร์ ประกอบด้วย อายุ เพศ ขนาดครอบครัว สถานภาพ รายได้ อาชีพ ระดับการศึกษา องค์ประกอบ เหล่านี้เป็นเกณฑ์ที่นิยม นํามาใช้ในการแบ่งส่วนการตลาด ลักษณะประชากรศาสตร์เป็นสิ่งที่สําคัญ และสถิติที่วัดได้ของประชากรที่จะ สามารถช่วยกําหนดตลาดของกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งทําให้ง่ายต่อการวัดมากกว่าตัวแปรทางด้านอื่นๆ ตัวแปร ทางด้านประชากรที่สําคัญ ประกอบด้วย 1. เพศ (Sex) สามารถแบ่งแยกความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยดูเพศของผู้บริโภคเป็นหลักในการ ตอบสนองความต้องการ ซึ่งเป็นตัวแปรในการแบ่งส่วนตลาดที่สําคัญเพราะปัจจุบันนี้ ตัวแปรด้านเพศมีการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคมาก เพศที่แตกต่างกันมักจะมีทัศนคติ การรับรู้ และการตัดสินใจในเรื่องการ ซื้อสินค้าบริโภคแตกต่างกัน เกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งเพศ ได้แก่ เพศชาย และเพศหญิง (สํานักงานสถิติแห่งชาติ สํามะโนประชา และเคหะ พ.ศ. 2543) 2. อายุ (Age) อายุของกลุ่มผู้บริโภคซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อการบริโภคสินค้า หรือบริการ จะสามารถ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีอายุแตกต่างกัน นักการตลาดจึงใช้ประโยชน์จากด้านอายุ เพื่อเป็นตัว แปรทางด้านประชากรศาสตร์ที่แตกต่างกันของส่วนตลาด ได้ทําการค้นคว้าหา ความต้องการของตลาดส่วน เล็ก (niche market) โดยมุ่งความสําคัญที่ตลาดอายุส่วนนั้น ๆ เกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งอายุ ได้แก่ 21 - 30 ปี, 31 - 40 ปี, มากกว่า 40 ปี ขึ้นไป (ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย พ.ศ.2563) 3. การศึกษา อาชีพ และรายได้ (Income, Education and Occupation) ส่วนใหญ่มักจะมีความ สอดคล้องกัน โดยบางครั้งนักการตลาดอาจจะใช้เกณฑ์เรื่องของรายได้มาใช้ในการกําหนดตลาด ก่อนแต่ทว่า การแบ่งเกณฑ์รายได้เพียงอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถใช้ในการตัดสินใจผู้บริโภคได้ เนื่องจากการศึกษาและ อาชีพก็มีส่วนสําคัญในการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าและบริการของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3