รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้ง-2-เล่ม-1

532 241 คน คิดเป็นร้อยละ 60.6 มีอายุ 40-49 ปี จานวน 102 คน คิดเป็นร้อยละ 25.6 ระดับการศึกษาจะอยู่ใน ระดับปริญญาตรี จานวน 266 คน คิดเป็น ร้อยละ 66.8 ส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัท จานวน 148 คน คิด เป็นร้อยละ 37.2 มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 3,000,001- 4,000,000 เยน จานวน 127 คน คิดเป็นร้อยละ 31.9 ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของประชากรชาวญี่ปุ่น เมืองโอทาวะระ จังหวัดโทชิงิ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแสดงเป็นค่าแจกแจงความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจานวน 398 คน ส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน จานวน 332 คน คิดเป็นร้อยละ 83.4 เดินทางท่องเที่ยว 1-2 ครั้งต่อปี และ 3-4 ครั้งต่อปี จานวน 160 คนเท่ากัน คิด เป็นร้อยละ 40.2 ชอบเดินทางไปสวนสนุก จานวน 129 คน คิดเป็นร้อยละ 32.4 มักวางแผนการเดินทาง ท่องเที่ยวด้วยตนเอง จานวน 228 คน คิดเป็นร้อยละ 57.3 มีบุคคลที่มีส่วนสาคัญต่อการตัดสินใจเดินทาง ท่องเที่ยว คือ ตัวเอง จานวน 172 คน คิดเป็นร้อยละ 43.2 ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะในการเดินทาง จานวน 168 คน คิดเป็นร้อยละ 42.2 มักเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัว จานวน 213 คน คิดเป็นร้อยละ 53.5 มักเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน จานวน 209 คน คิดเป็นร้อยละ 52. ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก สถานที่ท่องเที่ยวคือสภาพธรรมชาติมีความสวยงามร่มรื่น จานวน 158 คน คิดเป็นร้อยละ 39.7 แหล่งค้นหา ข้อมูลสาหรับการท่องเที่ยวคือเว็บไซต์ จานวน 327 คน คิดเป็นร้อยละ 82.2 คิดว่าหากสถานการณ์ Covid-19 หาย เป็นปกติแล้ว มีความสนใจเดินทางไปต่างประเทศ จานวน 339 คน คิดเป็นร้อยละ 85.2 คิดว่าหากมี โอกาสได้ เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ทวีปเอเชีย จานวน 198 คน คิดเป็น ร้อยละ 49.7 วางแผนและเดินทางท่องเที่ยวครั้งต่อไปมีความสนใจที่จะใช้บริการบริษัทจัดนาเที่ยว จานวน 149 คน คิดเป็นร้อย ละ 37.4 สรุปและการอภิปรายผล จากการศึกษาพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของประชากรชาวญี่ปุ่นมารถ สรุปประเด็นสาคัญมา อภิปรายได้ดังนี้ จากผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจานวน 398 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 40- 49 ปี ระดับการศึกษาจะอยู่ในระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัท มีรายได้ เฉลี่ยต่อปี 3,000,001- 4,000,000 เยน สอดคล้องกับงานวิจัยของนภัสนันท์ ทองอินทร์ ได้ศึกษาเรื่องแนวทางการพัฒนาพื้นที่ ท่องเที่ยวในอาเภอพระนครศรีอยุธยาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ผลการวิจัย พบว่า มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีร้อยละ 33.6 ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนร้อยละ 51.6 และ มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท ร้อยละ 67.4 การศึกษาด้านพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่น พบว่าส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน เดินทางท่องเที่ยว 1-2 ครั้งต่อปีและ 3-4 ครั้งต่อปี มัก วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง มักเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวมักพักที่ โรงแรม ปัจจัยสาคัญในการเลือกที่พักคือการบริการ มีแหล่งค้นหาข้อมูลสาหรับการท่องเที่ยว คือ เว็บไซต์ ค่าใช้จ่ายสาหรับที่พักเฉลี่ยต่อคืน คือ 3,001-5,000 เยน วางแผนและเดินทางท่องเที่ยวครั้งต่อไปมีความสนใจ