รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติทางนิติศาสตร์-ครั้ง-2-เล่ม-2

39 หรือสถานที่อื่นที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและศาลเห็นสมควร ตามเวลาที่ศาลกาหนด โดยเงื่อนไขของการเปลี่ยนโทษ นี้ใช้ได้เฉพาะกับคดีอาญาที่ศาลมีคาพิพากษาให้ลงโทษจาคุกหรือต้องใช้วิธีการกักกันตามมาตรา 39(1) แห่ง ประมวลกฎหมายอาญาเท่านั้น หากเป็นโทษอื่น ๆ เช่น ปรับ หรือกักขัง ย่อมไม่อาจเข้าหลักเกณฑ์ของการเปลี่ยน โทษตามข้อนี้แต่ประการใด ทั้งนี้ ในแต่ละปีศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศใช้มาตรการเปลี่ยนโทษข้างต้นเป็นจานวน ดังนี้ [ 5 ] ปี พ.ศ. จานวนคดีอาญาที่ศาล เยาวชนและครอบครัวมีคา ตัดสินทั้งหมด จานวนคดีที่ศาลใช้มาตรการเปลี่ยน โทษจาคุกหรือวิธีการเพื่อความ ปลอดภัยเป็นการส่งตัวเด็กหรือ เยาวชนไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมตาม ม. 142 (1) คิดเป็นร้อยละ 2556 2557 2558 2559 2560 32,567 29,338 20,749 14,653 11,465 6,101 5,888 4,768 4,438 3,648 19.66 20.07 22.98 30.28 31.81 เป็นที่น่าสังเกตว่า การมีคาพิพากษาคดีอาญาที่เด็กและเยาวชนเป็นผู้กระทาผิดในศาลเยาวชนและ ครอบครัวนั้นส่วนมากเป็นการเปลี่ยนโทษจาคุกเป็นการส่งตัวไปฝึกและอบรมตามบทบัญญัตินี้ [6] และการเปลี่ยน โทษจากจาคุกเป็นการส่งตัวไปฝึกอบรมนี้เป็นการใช้วิธีการสาหรับเด็กและเยาวชนแทนการลงโทษทางอาญา ไม่ใช่ เป็นการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 [7] 7. กฎหมายและมาตรการที่ใช้บังคับกับเด็กและเยาวชนที่กระทาความผิดร้ายแรงหรือกระทาความผิด ซ้าในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย มลรัฐฟลอริดา และมลรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีสถิติการกระทาความผิดสูงแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี ค.ศ. มีสถิติการกระทา ความผิดโดยเป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่ไม่ได้เข้าผูกพันต่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the rights of the child) ด้วยเหตุผลที่มีรากฐานมาจากความคิดเชิงอนุรักษ์นิยมด้านศาสนา แต่กระบวนการยุติธรรมของเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นผู้กระทาความผิดกลับถูกพัฒนามายาวนานกว่า 100 ปี ซึ่ง

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3