คำอธิบาย พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
117 คาอธิบายพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 7.12 ระเบียบของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เกี่ยวกับอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร วิธีพิจารณาและวินิจฉัย และองค์คณะในการพิจารณาและวินิจฉัย อานาจหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแต่ละสาขา วิธีพิจารณาและวินิจฉัย และองค์คณะในการพิจารณาและวินิจฉัย ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ กาหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา 38 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของ ราชการ พ.ศ. 2540 ระเบียบที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการกาหนดดังกล่าว คือ ระเบียบที่คณะกรรมการ ข้อมูลข่าวสารของราชการ ว่าด้วยอานาจหน้าที่ วิธีพิจารณาและองค์คณะในการพิจารณาและวินิจฉัยของ คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2542 ลงวันที่ 20 กันยายน 2542 ซึ่งมีสาระสาคัญดังนี้ 1. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขามีหน้าที่พิจารณา และวินิจฉัยอุทธรณ์ตามที่ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมอบหมาย (ข้อ 4) 2. ในกรณีที่เห็นสมควรหากเป็นข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับความชานาญเฉพาะด้านหลายสาขา คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการจะแต่งตั้งกรรมการวินิจฉันการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารจากหลายสาขา เป็นองค์คณะพิเศษพิจารณาเป็นรายกรณีก็ได้ (ข้อ 5) 3. ให้ประธานกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาจัดให้มีองค์คณะในการพิจารณา คาอุทธรณ์ขึ้นมาคณะหนึ่งหรือหลายคณะ เพื่อพิจารณาคาอุทธรณ์ (ข้อ 6 วรรคหนึ่ง) 4. องค์คณะในการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน และให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่า 2 คน เพื่อปฏิบัติเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ฝุายเลขานุการให้แก่องค์คณะที่พิจารณาอุทธรณ์นั้น (ข้อ 6 วรรคสาม) 5. ให้กรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารในองค์คณะที่พิจารณาอุทธรณ์ เลือกกรรมการ คนหนึ่งเป็นหัวหน้าคณะ และเลือกกรรมการอีกคนหนึ่งเป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสานวนอุทธรณ์ (ข้อ 7) 6. การประชุมพิจารณาขององค์คณะที่พิจารณาอุทธรณ์ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจานวนกรรมการที่มีอยู่ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน จึงเป็นองค์ประชุม (ข้อ 11) 7. ที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ต้องประกอบด้วยกรรมการ วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารทุกสาขาในนั้น แต่ต้องมีกรรมการมาประชุมเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจานวน กรรมการที่มีอยู่จึงจะเป็นองค์ประชุม (ข้อ 12) 8. การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน (ข้อ 13) 9. องค์คณะที่พิจารณาอุทธรณ์มีอานาจเรียกให้บุคคลมาซักถามข้อเท็จจริง หรือจัดส่งวัตถุเอกสาร หรือพยานหลักฐานได้ (ข้อ 16, 26) 10. ให้หน่วยงานของรัฐที่ถูกอุทธรณ์จัดส่งข้อมูลข่าวสารไปยังองค์คณะที่พิจารณาอุทธรณ์ แต่ในกรณี ที่หน่วยงานของรัฐนั้นไม่อาจจัดส่งข้อมูลข่าวสารให้ได้ ให้หน่วยงานของรัฐนั้นชี้แจงเหตุผลเป็นหนังสือต่อ องค์คณะที่พิจารณาอุทธรณ์ (ข้อ 17)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3