คำอธิบาย พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540

119 คาอธิบายพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 7.13 บทสรุป 7.13.1 การแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร คณะรัฐมนตรีมีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่าง ๆ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ในปัจจุบัน (พ.ศ. 2568) คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูล ข่าวสาร ตามสาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของข้อมูลข่าวสารของราชการ โดยแบ่งออกเป็น 5 สาขา ได้แก่ 1. สาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย 2. สาขาการแพทย์และสาธารณสุข 3. สาขาต่างประเทศ ความมั่นคง และการเมือง 4. สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการเกษตร 5. สาขาเศรษฐกิจและการคลัง 7.13.2 อานาจหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (มาตรา 35) คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร มีอานาจหน้าที่ดังนี้ 7.13.2.1 พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คาสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 14 หรือมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 7.13.2.2 พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คาสั่งไม่รับฟังคาคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสียตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 7.13.2.3 พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คาสั่งไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 สาหรับระยะเวลาการอุทธรณ์ แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคาสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดตามมาตรา 14 หรือมาตรา 15 หรือมีคาสั่งไม่รับฟังคาคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสียตามมาตรา 17 ผู้นั้นอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคาสั่งนั้น ตามมาตรา 18 แห่ง พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 2. ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารให้ตรงตามที่มีคาขอ ให้ผู้นั้นมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง คาสั่งไม่ยินยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสาร ตามมาตรา 25 วรรคสี่ แห่งแห่งพระราชบัญญัติข้อมูล ข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3