คำอธิบาย พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540

33 คาอธิบายพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 3.5.3 ระยะเวลาในการจัดหาข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานของรัฐ เมื่อผู้ที่ประสงค์จะขอข้อมูลข่าวสารของราชการเฉพาะราย ได้ยื่นคาขอพร้อมกับระบุ ข้อมูลข่าวสารที่ต้องการในลักษณะที่อาจเข้าใจได้ตามควรต่อหน่วยงานของรัฐแล้ว หน่วยงานของรัฐจะต้อง ดาเนินการจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอ “ภายในเวลาอันสมควร” ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของ ราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง สาหรับคาว่า “ภายในเวลาอันสมควร” ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคหนึ่งนั้น เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 37 ได้กาหนดว่า ในการปฏิบัติราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชน ให้หน่วยงานของรัฐกาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานแต่ละงาน และประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการ ทั่วไป ดังนั้น หน่วยงานของรัฐแต่ละแห่งต้องกาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ ของการจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ ผู้ขอเฉพาะราย และประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป 3.5.4 กรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่ต้องจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอเฉพาะราย หากผู้ที่ประสงค์จะขอข้อมูลข่าวสารของราชการเฉพาะรายได้ยื่นคาขอข้อมูลข่าวสารของ ราชการจานวนมากหรือบ่อยครั้ง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หน่วยงานของรัฐไม่จาต้องดาเนินการจัดหาข้อมูล ข่าวสารให้แก่ผู้ขอนั้น ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง 3.5.5 กรณีข้อมูลข่าวสารของราชการที่ขอมีสภาพที่อาจบุบสลายง่าย หากข้อมูลข่าวสารของราชการใดมีสภาพที่อาจบุบสลายง่าย เช่น กระดาษใบเสร็จรับเงินที่มี สภาพบางมาก ๆ และง่ายต่อฉีกขาด เป็นต้น หน่วยงานของรัฐจะขอขยายเวลาในการจัดหาให้ หรือจะจัดทา สาเนาให้ในสภาพอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูลข่าวสารนั้นก็ได้ ตามพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคสอง 3.5.6 กรณีข้อมูลข่าวสารของราชการที่ขอไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะให้ได้ หลัก ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานของรัฐต้องจัดหาให้ผู้ขอเฉพาะรายนั้น ต้องเป็น ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่แล้วในสภาพที่พร้อมจะให้ได้ มิใช่เป็นการต้องไปจัดทาวิเคราะห์ จาแนก รวบรวม หรือจัด ให้มีขึ้นใหม่ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคสาม เพื่อมิให้เป็น ภาระแก่หน่วยงานของรัฐจนเกินไป คาวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ สค 118/2566 การที่นาย ข. ต้องเบิกความเป็นพยานในคดีอาญาที่นาย ก. เป็นจาเลย และศาลนัดสืบพยานระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2565 แต่นาย ข. อ้างว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงขอเบิกความต่อศาลก่อนล่วงหน้า ซึ่งนาย ก. เห็นว่าจะทาให้รูปคดีของตนเองได้รับความเสียหาย นาย ก. จึงขอให้สานักงานตรวจคนเข้าเมือง ออกหนังสือรับรอง ให้แก่นาย ก . ว่า ระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2565 นาย ข. เดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ ถ้ามี ให้ระบุประเทศที่ไป ถ้าไม่มี ให้ระบุว่าไม่มีการเดินทางไป