คำอธิบาย พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540

35 คาอธิบายพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 จาเป็นเพื่อปกปูองสิทธิเสรีภาพสาหรับผู้นั้นหรือเป็นเรื่องที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ หน่วยงานของรัฐจึง สามารถใช้ดุลพินิจไม่จัดหาข้อมูลข่าวสารตามที่ผู้ฟูองคดีมีคาขอก็ได้ ตามมาตรา 11 วรรคสาม แห่ง พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 3.5.7 ให้นาพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ มาใช้บังคับโดยอนุโลม พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคห้า กาหนดว่า ให้นา ความในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ มา ใช้บังคับแก่การจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอเฉพาะรายโดยอนุโลม ดังนั้น การจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอ เฉพาะรายจึงต้องดาเนินการดังนี้ 1. การจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอเฉพาะราย ถ้ามีส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยตามมาตรา 14 หรือมาตรา 15 อยู่ด้วย ให้ลบหรือตัดทอนหรือทาโดยประการอื่นใดที่ไม่เป็นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้น ตามมาตรา 11 วรรคห้า ประกอบมาตรา 9 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ตัวอย่างที่ 1 การขอหนังสือร้องเรียนนั้น เมื่อชื่อผู้ร้องเรียนเป็นข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล การเปิดเผยชื่อผู้ร้องเรียนจึงอาจเป็นการรุกล้าสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลอื่นโดยไม่สมควร ตามมาตรา 15 วรรค หนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ดังนั้น หน่วยงานของรัฐอาจไม่เปิดเผย ชื่อผู้ร้องเรียน โดยลบหรือตัดทอนชื่อผู้ร้องเรียนออกได้ ตามมาตรา 9 วรรคสอง ประกอบกับมาตรา 11 วรรค ห้า แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ตัวอย่างที่ 2 การขอหนังสือร้องเรียนนั้น เมื่อข้อความในหนังสือร้องเรียนที่เขียนด้วยลายมือ ของผู้ร้องเรียนทั้งหมด หน่วยงานของรัฐจึงใช้วิธีการคัดลอกข้อความจากต้นฉบับแทนการถ่ายเอกสารได้ เพื่อมิให้เห็นลายมือของผู้ร้อง เรียน อันจะทาให้ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ร้อง เ รียน โดยถือเป็นการทา โดยประการอื่นใด เพื่อไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้น ตามมาตรา 9 วรรคสอง ประกอบกับมาตรา 11 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 คาวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ 45/2552, 98/2552 หากหน่วยงานของรัฐเห็นว่าการเปิดเผยสานวนการสอบสวนข้อเท็จจริง อันรวมถึงบันทึกคาให้การพยาน จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของพยาน ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ก็อาจใช้ดุลยพินิจลบหรือปกปิดชื่อหรือข้อความอื่นใด ที่จะทาให้ทราบ ว่าบุคคลใดเป็นผู้ให้ถ้อยคาหรือความเห็นนั้นได้ คาวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ 180/2552 ข้อมูลข่าวสาร ที่ผู้อุทธรณ์ร้องขอ คือ ผลคะแนนสอบแต่ละรายของผู้เข้าสอบเพื่อเลื่อนตาแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนคดี พิเศษ 8 ว ซึ่งได้ดาเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และมีการประกาศรายชื่ออผู้ได้รับคัดเลือกแล้ว ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารที่ ผู้อุทธรณ์ร้องขอ จึงเป็นข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยให้ผู้อุทธรณ์ได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าว อาจจะมี

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3