เอกสารประชุมวิชาการระดับขาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 28 2561

1167 งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสังคมที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน (Research and Innovation for Social Stability, Prosperity and Sustainability) บทนา กิจกรรมรับน้องใหม่หรือการต้อนรับผู้มาเยือนเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นในทุกสังคมของมนุษย์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่ จะให้ผู้มาใหม่ลดความกังวล รู้สึกเป็นกันเองทาให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เช่นเดียวกับประเพณีการรับน้องของ สถานศึกษาที่มีเปŜาหมายให้นิสิตใหม่ได้ทาความรู้จักคุ้นเคยกับรุ่นพี่รุ่นน้อง ครูอาจารย์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข [1] กิจกรรมรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ของมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ได้จัดขึ้นเป็นประจาทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อปลูกฝŦงความมีระเบียนวินัย ความอดทนอดกลั้น การรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น ส่งเสริมให้มีความภูมิใจในสถาบันและมีการ ช่วยเหลือเกื้อกูลÞันพี่น้อง ซึ่งจัดอยู่ในรูปของกิจกรรมมากมาย ได้แก่ การบายศรีสู่ขวัญ แนะนาสถานที่ ปåมนิเทศ ประชุมเชียร์ กีāาสี เป็นต้น ถึงแม้ว่าการจัดกิจกรรมรับน้องและประชุมเชียร์จะเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความรัก สามัคคี เป็นอันหนึ่งอัน เดียวกันทั้งในระดับสาขา คณะและภาพรวมของมหาวิทยาลัย นาไปสู่การช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันในรั้วมหาวิทยาลัย แต่หาก ผลกระทบทางลบกĘอาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน เช่น รูปแบบกิจกรรมก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านจิตใจ ความเครียด ความ หวาดกลัวและวิตกกังวลภายใต้ความกดดันต่างė รวมถึงผลกระทบทางด้านร่างกาย เช่น อาการปวดเมื่อยต่างė อุบัติเหตุเลĘกė น้อยė หรือเป็นไข้เนื่องจากพักผ่อนน้อย ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ [2] ดังนั้นการวางแผนรับมือกับความเจĘบป่วยที่อาจจะ เกิดขึ้นในช่วงเปŗดเทอมใหม่ที่มีกิจกรรมรับน้องใหม่จึงเป็นสิ่งที่จาเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในปี พ.ศ 2559 หน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลสวัสดิการทางการแพทย์ให้กับนิสิตและบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัย ทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ประกอบไปด้วย 2 หน่วยงานหลักด้วยกัน ได้แก่ หน่วยพยาบาลสังกัดสานักงานหอพักภายใน มหาวิทยาลัยทักษิณ และศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งแหล่งข้อมูลทั้งสองแหล่งไม่สามารถที่จะบันทึกข้อมูลของนิสิตที่ ป่วยในช่วงรับน้องดังกล่าวได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์รวมถึงไม่มีความสอดคล้องกัน ทาให้เกิดปŦญหาในการประมาณการจานวน ของจานวนนิสิตป่วยทั้งหมดในช่วงที่มีกิจกรรมรับน้องใหม่ ทั้งนี้ข้อมูลนิสิตบางส่วนที่คาดว่าเจĘบป่วยในช่วงดังกล่าวแต่ไม่ได้ถูก บันทึกไว้ในระบบการให้บริการสุขภาพของมหาวิทยาลัย อาจจะเป็นนิสิตที่เจĘบป่วยเลĘกė น้อยė จึงไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวใน หน่วยให้บริการดังกล่าวหรืออาจจะเป็นนิสิตที่ไปเข้ารับการรักษาตัวในหน่วยให้บริการสุขภาพอื่นė เช่น โรงพยาบาลป่าพะยอม โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือซื้อยารับประทานเอง ซึ่งถือได้ว่าข้อมูลส่วนนั้นได้สูญหายไปจากระบบการให้การบริการด้านสวัสดิการ ของมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง การประยุกต์ใช้วิíีการจับปล่อย Capture-recapture method) เป็นวิíีที่มีประสิทíิภาพและได้รับการยอมรับอย่าง แพร่หลาย ในการประมาณขนาดประชากรที่ต้องการจะศึกษาที่มีลักษณะเข้าถึงได้ยาก elusive population size) หรือไม่ สามารถแจงนับได้ทุกหน่วยประชากร จึงถูกนามาประยุกต์ใช้ในการประมาณขนาดประชากรในหลากหลายสาขา ได้แก่ ด้าน สังคมศาสตร์ เช่น ประมาณจานวนอาชญากรรม [3] ประมาณจานวนอุบัติเหตุในท้องถนน [4] ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ซอôแวร์ โดยการประมาณค่าจานวนความผิดพลาดของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ [5] ด้านนิเวศวิทยา โดยประมาณจานวน สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดในระบบนิเวศ [6] ด้านสัตวศาสตร์ โดยประมาณจานวนสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคสเครปีที่ไม่สามารถตรวจพบได้ [7] เช่นเดียวกับงานด้านสาíารณสุขงานระบาดวิทยาและการแพทย์ เช่น การประมาณจานวนใช้ติดยาเสพ [8] จานวนผู้ติดเชื้อ โรคชนิต่างė [9,10,11] ซึ่งเทคนิคการจัดปล่อยนี้ สามาถใช้ประมาณการจานวนผู้ป่วยเพื่อนาไปคานวณหาอัตราการเกิดโรคและ ความชุกของโรคได้ ดังนั้นในงานวิจัยในครั้งนี้จึงนาเทคนิคการจับปล่อยมาใช้ในการประมาณจานวนนิสิตทั้งหมดที่ป่วยใน ช่วงเวลารับน้องของนิสิตมหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุง ดังนั้นหากทราบจานวนผู้ป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงรับน้องจะ นาไปสู่การวางแผนรับมือเกี่ยวกับสวัสดิการด้านการแพทย์การพยาบาลและด้านอนามัยให้กับนิสิตได้มีประสิทíิภาพมากยิ่งขึ้น