เอกสารประชุมวิชาการระดับขาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 28 2561
49 งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสังคมที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน (Research and Innovation for Social Stability, Prosperity and Sustainability) บทนา ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งในปŦจจุบันการผลิตกล้าไม้ของเกษตรกรจะ ปลูกหรือชากล้าไม้ในถุงเพาะชาพลาสติก กระถางเพาะชาที่ทาจากพลาสติกหรือดินเหนียว ซึ่งหาซื้อได้สะดวกและ มีราคาถูก เพื่อให้ต้นกล้ามีความแขĘงแรงพอก่อนที่จะนาไปปลูกต่อไป ซึ่งการใช้ถุงหรือกระถางเพาะชาที่ทาจากพลาสติกจะ ไม่มีสารอาหารที่พืชต้องการ เมื่อเวลาปลูกต้นกล้าลงดินจะต้องฉีกถุงพลาสติกหรือนาต้นกล้าออกจากกระถางพลาสติก ซึ่ง อาจทาให้กระทบกระเทือนต่อระบบรากของต้นกล้าได้ นอกจากนี้ถุงเพาะชาที่ฉีกทิ้งยังเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก สาหรับ กระถางพลาสติกนั้นหากมีการชารุดเสียหายจะไม่สามารถนาไปใช้เพื่อการเพาะชาได้ใหม่ อีกทั้งยังไม่มีการซื้อคืนเนื่องจาก กระถางพลาสติกเก่ามีราคาถูก ไม่คุ้มกับที่จะนากลับมาใช้ใหม่จึงจัดเป็นขยะย่อยสลายได้ยากเช่นกัน จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเหĘนได้ว่าขยะมูลòอยจากกิจกรรมการเพาะปลูกพื้นในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นสาเหตุก่อให้เกิดปŦญหาทางสิ่งแวดล้อม และหากมีการจัดการที่ไม่ถูกต้อง เช่น การจัดการโดยการเผาจะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศตามมา เป็นอันตรายต่อระบบ ทางเดินหายใจของมนุษย์และสัตว์ และเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย [1] การวิจัยในครั้งนี้จึงเลĘงเหĘนถึงความสาคัญของการผลิตกระถางเพาะชาที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม ช่วย เพิ่มแร่ธาตุและสารอาหารให้แก่พืชที่ทาการเพาะชาและนาไปปลูก และเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถย่อย สลายได้และหาได้ง่ายในท้องถิ่น จากการศึกษาเบื้องต้น พบว่า มีการผลิตกระถางเพาะชาจากวัสดุหลายชนิด เช่น การศึกษาการพองตัวของกระถางขึ้นรูปจากเส้นใยกกช้าง [2] การวิจัยกระถางต้นไม้จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร [3] เป็นต้น ซึ่งวัสดุเหลือใช้เพียงอย่างเดียวอาจมีแร่ธาตุและสารอาหารน้อยไม่เพียงพอ ผู้ศึกษาจึงมีแนวความคิดที่จะนามวล ชีวภาพ เช่น กากกาแฟมาพัçนาใช้ในรูปแบบกระถางเพาะชาพืชทดแทนถุงเพาะชาและกระถางพลาสติก จากการศึกษา วัสดุจากภาคการค้าและอุตสาหกรรมในท้องถิ่น พบว่า วัสดุเหลือใช้และเป็นของเสียที่ก่อเกิดขึ้นในชุมชนที่น่าสนใจ คือ กากกาแฟ ซึ่งกาแฟจัดเป็นเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับหนึ่งและมีการซื้อขายเป็นอันดับสองรองจาก ปŗโตรเลียม [4-5] ในปŦจจุบันมีการประกอบธุรกิจร้านค้าขายกาแฟเพิ่มจานวนมากขึ้น ทาให้ปริมาณกากกาแฟที่เหลือใช้ หลังจากการชงกาแฟมีปริมาณมากขึ้นตามไปด้วย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่มีการนากากกาแฟไปใช้ประโยชน์เท่าที่ควร โดยมักจะทิ้งกากกาแฟรวมไปกับขยะมูลòอยอื่นė ซึ่งเป็นการสูญเสียคุณค่าของกากกาแฟไปโดยเปล่าประโยชน์ จาก การศึกษาในเบื้องต้น พบว่า กากกาแฟมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชและสามารถขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน ต่างė ได้ [1] และนอกจากนี้วัตถุดิบอีกชนิดที่ผู้วิจัยเลือกใช้ คือ ปูนขาวจากเปลือกหอยที่ได้จากการเผาเปลือกหอยที่ได้จาก การรวบรวมจากร้านอาหารและอุตสาหกรรมการแปรรูป เป็นการนาวัสดุมารีไซเคิลเป็นวัสดุ ใหม่ที่สามารถนามาใช้ ประโยชน์ได้ในทางการเพาะปลูก สามารถช่วยกันแมลงศัตรูพืชบางชนิด และปรับค่าพีเอชของดินที่เป็นกรดได้ [1] งานวิจัยนี้จึงมีแนวคิดในการผลิตกระถางเพาะชา โดยใช้วัสดุร่วมระหว่างกากกาแฟกับปูนขาวจากเปลือกหอย เพื่อเพิ่มธาตุอาหาร ช่วยป้องกันแมลง และช่วยปรับค่าพีเอชลดความเป็นกรดในดินได้ การนาวัสดุดังกล่าวมาขึ้นรูปเป็น กระถางเพาะชาจึงเป็นทางเลือกที่มีคุณค่ายิ่งต่อสิ่งแวดล้อม กระถาง สามารถย่อยสลายตัวเป็นปุŞยหรือดินร่วน ไม่ก่อให้เกิด ขยะ สามารถเพิ่มธาตุอาหารให้กับดินอันเป็นประโยชน์ต่อต้นกล้าและยังช่วยในการปรับปรุงดินได้อีกด้วย และอาจส่วน หนึ่งในการสร้างåานการผลิต การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมสู่นานาประเทศต่อไป วัสดčǰอčปกรèŤǰและวิíีดาเนินการ งานวิจัยนี้ใช้วัตถุดิบหลักในการผลิตกระถางเพาะชาย่อยสลายได้ ประกอบไปด้วย กากกาแฟเหลือใช้ที่รวบรวม จากร้านจาหน่ายกาแฟสด และปูนขาวจากการเผาเปลือกหอย โดยขนาดของกากกาแฟและปูนขาวจากเปลือกหอยที่ใช้ใน งานวิจัยนี้ เท่ากับ 2 มิลลิเมตร วัสดุประสาน คือ กาวแป้งเปียก ที่อัตราส่วนแป้งมันสาปะหลัง : น้าเปล่า เท่ากับ 1:35 ผู้วิจัย ได้ศึกษาดาเนินงานตามลาดับ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. การอัดขึ้นรูปกระถางเพาะชาชีวภาพจากกากกาแฟผสมปูนขาวจากเปลือกหอย ผู้วิจัยได้กาหนดชุดการทดลองในการอัดขึ้นรูปกระถางเพาะชาออกเป็น 7 ชุดการทดลอง คือ อัตราส่วน กากกาแฟ:ปูนขาว:วัสดุประสาน เท่ากับ 10:0:3 8:2:3 7:3:3 6:4:3 5:5:3 4:6:3 และ 0:10:3 ผสมโดยใช้เครื่องผสม อัตโนมัติ ทาการขึ้นรูปกระถางเพาะชาชีวภาพด้วยเครื่องอัดไฮโดรลิกแบบโยก ใช้แรงอัด เท่ากับ 500 kg/cm 2 เส้นผ่าศูนย์กลางของปากกระถาง ก้นกระถาง และความสูง เท่ากับ 10 9 และ 9 เซนติเมตร ตามลาดับ มวลของกระถาง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3