เอกสารประชุมวิชาการระดับขาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 28 2561

933 งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสังคมที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน (Research and Innovation for Social Stability, Prosperity and Sustainability) ส่วนหัว ส่วนล้าต้น รูปทĊę 3 หญ้าแห้วหมูสดปŦũนละเอียด รูปทĊę 2 การน้าสารสกัดแช่ในน้้ามันเพื่อศึกษา การยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน การวิเคราąหŤปริมาèสารปรąกอบôŘนอúรวมด้วยวิíĊ Folin-Ciocalteu : ปŗเปตสารมาตรฐานกรดแกลลิก 6 ppm 400 ไมโครลิตร ท้าปฏิกิริยากับรีเอเจนต์ Folin-Ciocateu 2,000 ไมโครลิตร วางไว้ 3 นาที และเติมสารละลายโซเดียม คาร์บอเนต (75 กรัมต่อลิตร ) 1600 ไมโครลิตร วางไว้ในที่มืด 120 นาที น้าสารละลายที่ได้ไปวัดค่าการดูดกลืนแสงสูงสุด ในช่วงความยาวคลื่น 500-800 นาโนเมตร โดยเครื่องยูวี - วิสิเบิล สเปกโทรโฟโตมิเตอร์ (SHIMADZU; UV- 18 ) จากนั้น น้าสารละลายมาตรฐานกรดแกลลิกความเข้มข้น 20-100 ppm มาวิเคราะห์เพื่อสร้างกราฟมาตรฐาน และน้าสารสกัดมา หาปริมาณฟีนอลรวมโดยการเปรียบเทียบกับกราฟมาตรฐาน และรายงานผลเปŨนหน่วยมิลลิกรัมแกลลิกต่อกรัมตัวอย่าง การวัดความสามารëในการê้านอนčมูúอิสรąด้วยวิíĊ DPPH radical scavenging : ปŗเปตสารละลายตัวอย่าง 0.1 มิลลิลิตร เติมสารละลาย DPPH 6Y1 -5 โมลาร์ 2.9 มิลลิลิตร น้าไปวัดค่าการดูดกลืนแสงที่ 517 นาโนเมตร ในที่มืด วัด ค่าการดูดกลืนแสงทุกė 30 นาที เปŨนเวลา 120 นาที หรือจนกว่าค่าการดูดกลืนแสงจะลดลง 50% และเริ่มคงที่ แล้วค้านวณ เปอร์เซ็นต์การยับยั้ง DPPH (% inhibition) จากสมการ เปอร์เซ็นต์การยับยั้ง DPPH = ค่าการดูดกลืนแสง blank- ค่าการดูดกลืนแสงตัวอย่าง ค่าการดูดกลืนแสงของ blank ™1 การวิเคราąหŤการยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชัน โดยวัดค่าเปอรŤออกĕซดŤêามวิíĊมาêรåาน AOCS : น้าตัวอย่างสารสกัดแบบ แห้ง แบบสารสกัดในตัวท้าละลาย และแบบสดมาทดลองเปรียบเทียบ ผสมลงในน้้ามัน 15 กรัม โดยค้านวณอัตราส่วนการผสมจากน้้าหนัก สารสกัดต่อปริมาณฟีนอลรวม 1, มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม กวนให้เข้า กัน ดังรูปที่ 2 แล้วเก็บน้้ามันไว้ในตู้บ่มที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส เปŨน เวลา วัน โดยเก็บตัวอย่างน้้ามันมาวิเคราะห์การยับยั้งการ เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยการวัดค่าเปอร์ออกไซด์ ดังนี้ น้าน้้ามันที่ผ่านการยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชัน 5.00±0.05 กรัม มาท้าปฏิกิริยากับสารละลายผสมของกรดอะซีติกกับคลอโรฟอร์ม 3 : 2) 30 มิลลิลิตร เขย่านาน 1 นาที แล้วเติม สารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์ 0.5 มิลลิลิตร ตั้งทิ้งไว้ในที่มืด 1 นาที เติมน้้ากลั่น 30 มิลลิลิตร และน้าไปไทเทรตด้วย สารละลายโซเดียมไธโอซัลเฟต 0.01 นอร์มัล โดยใช้น้้าแปŜงเปŨนอินดิเคเตอร์ บันทึกปริมาตรสารละลายโซเดียมไธโอซัลเฟต ที่ใช้กับน้้ามันหมู (S และที่ใช้กับ blank (B แล้วค้านวณหาค่าเปอร์ออกไซด์ จากสมการ ค่าเปอร์ออกไซด์ (S-B)× ความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไธโอซัลเฟต น้้าหนักของตัวอย่าง ñúการวิÝัยแúąอภิปรายñúการวิÝัย เมื่อน้าส่วนหัวและล้าต้นของหญ้าแห้วหมูมาปŦũนให้ละเอียด พบว่า ตัวอย่างสดส่วนหัวมีลักษณะเนื้อละเอียด สีเหลืองอมน้้าตาล มีกลิ่นÞุน เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้้ามันหอมระเหยจ้านวนมาก [1 ] และมีรส òาด ส่วนตัวอย่างล้าต้นมีลักษณะหยาบเปŨนเส้นė เนื่องจากมีเส้นใยและมีสี เขียวจากคลอโรฟŗลล์ ซึ่งเปŨนสารประกอบที่พบได้ในส่วนที่มีสีเขียวของใบพืช ดังรูปที่ 3 จากนั้นน้าตัวอย่างที่ผ่านการอบแห้งน้้าหนัก กรัม (ME METTLER TOLEDO มาสกัดด้วยตัวท้า ละลายน้้าและเอทานอล 15%, 45%, 75% และ 95% เปŨนเวลา 3 วัน ได้สารละลายสกัดดังรูปที่ 3 ซึ่งพบว่าสีของสารสกัด

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3