Proceeding2562

1022 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จากนั้นนาสูตรพื้นฐานที่ผ่านการคัดเลือกจากขั้นตอนการดาเนินวิจัย มาปรับเพิ่มกากถั่วเหลืองในปริมาณที่แตกต่าง กันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาอัตราส่วนที่เหมาะสมในการผลิตขนมข้าวตูจากกากถั่วเหลืองในอัตราส่วน 50% , 75% , 100% ดังนี้ ตารางที่. 2 ส่วนผสมในการทาขนมข้าวตูจากกากถั่วเหลืองในอัตราส่วน 50% , 75% , 100% ดังนี้ ส่วนประกอบ 50% 75% 100% เนื้อมะพร้าวขูด (กรัม) 100 50 - กากถั่วเหลือง (กรัม) 100 150 200 น้้าตาลโตนด (กรัม) 200 200 200 ข้าวคั่ว (บดละเอียด) (กรัม) 83 83 83 กะทิ (กรัม) 120 120 120 นาสูตรมาทดสอบความชอบ 5 ระดับ ( 5 Points hedonic scale) จากผู้ทดสอบชิม 30 คน ซึ่งเป็นนักศึกษา และ บุคลากร สาขาเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง ตรัง นาผลที่ ได้มาวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้ววิเคราะห์หาตัวแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และทดสอบ ความแตกต่างโดยใช้ Duncan’s multiple test ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 % แปลผลคะแนนเฉลี่ยโดยใช้เกณฑ์คะแนนตามช่วง ระดับคะแนน (Class Interval) ดังนี้ ค่าเฉลี่ย 4.21-5.00 หมายถึง คะแนนความชอบในระดับชอบมาก ค่าเฉลี่ย 3.41-4.20 หมายถึง คะแนนความชอบในระดับชอบ ค่าเฉลี่ย 2.61-3.40 หมายถึง คะแนนความชอบในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.81-2.60 หมายถึง คะแนนความชอบในระดับไม่ชอบ ค่าเฉลี่ย 1.00-1.80 หมายถึง คะแนนความชอบในระดับไม่ชอบมาก ผลการวิจัยและอภิปรายผลการวิจัย การวิจัยเรื่องนี้ผู้วิจัยต้องการพัฒนาขนมข้าวตูจากกากถั่วเหลือง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสูตรของขนมข้าวตูจากกาก ถั่วเหลืองที่เหมาะสม จากสูตรมาตรฐาน ที่ได้จากแบบสอบถามของขนมข้าวตูทั้ง 3 สูตร จากการท้าแบบสอบถามผู้วิจัยจึงได้ สูตรขนมข้าวตูสูตรมาตรฐานสูตรจากสูตรดัดแปลงจาก กิมเล้ง (2555) มีส่วนผสม คือ เนื้อมะพร้าวขูด 200 กรัม ข้าวสารคั่ว บดละเอียด 83 กรัม หัวกะทิ 120 กรัม น้้าตาลโตนด 200 กรัม หลังจากนั้นน้ามาปรับเปลี่ยนอัตราส่วนของกากถั่วเหลืองที่ อัตราส่วน 50% 75% และ 100% โดยใส่รวมกับน้้าหนักของสูตรขนมข้าวตูจากเนื้อมะพร้าวขูด จากการทดสอบคุณภาพทาง ประสาทสัมผัสของสูตรขนมข้าวตูจากกากถั่วเหลืองทั้ง 3 สูตร โดยให้คะแนนแบบ 5 point hedonic scale ( 1 = ไม่ชอบ มากที่สุด ถึง 5 = ชอบมากที่สุด ) กับผู้ทดสอบจ้านวน 30 คน ตารางที่ 3

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3