Proceeding2562

1244 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 3 บทนํา ในทางการแพทยมีการใชรังสีเอกซเรยทั้งในการวินิจฉัยโรคและการบําบัดโรค โดยเฉพาะการถายภาพอวัยวะตาง ๆ ของ รางกาย ไมวาจะเปนการวินิจฉัยชนิดใดจะเกิดรังสีกระเจิง (Scattered radiation) ออกมา ปริมาณรังสีที่เกิดจากการตรวจวินิจฉัย ดวยรังสีเอกซเรยโดยเทคนิคถายภาพบนฟลมหรือใชระบบดิจิตอลสวนใหญจะมีปริมาณนอย แตหากมีการตรวจซ้ําผูรับบริการทาง การแพทยก็จะไดรับปริมาณรังสีมากขึ้น โอกาสเกิดความเสี่ยงที่จะเปนโรคมะเร็งได จึงมีการสรางอุปกรณปองกันรังสีจากวัสดุตาง ๆ เชน การทําเสื้อหรือสวนประกอบในชุดปองกันรังสีจากการใสตะกั่วบริสุทธลงไปเปนสวนประกอบชุดปองกันรังสีเอกซเรยซึ่งทําจาก วัสดุพอลิเมอรชนิดตาง ๆ อุปกรณปองกันรังสีที่ใชในหองปฏิบัติการรังสีไดแก เสื้อตะกั่ว ปลอกคอตะกั่ว [1] เปนตน สําหรับสวมใส ซึ่งเปนมาตรการหนึ่งในการปองกันอันตรายจากรังสี โดยเฉพาะบุคคลากรที่ใชงานเครื่องเอกซเรยในหองผาตัดและหองหัตถการรังสี รวม อุปกรณปองกันรังสีเหลานั้นมีราคาแพง และอาจตองนําเขาจากตางประเทศ การนําตะกั่วออกไซดสีแดงแทนตะกั่วบริสุทธิ์มา ผสมกับยางธรรมชาติเปนแนวทางหนึ่งในการตนทุนของการผลิตอุปกรณปองกันตะกั่วและสามารถปองกันรังสีไดอยางมี ประสิทธิภาพเทียบเทากับอุปกรณปองกันรังสีมาตรฐานเนื่องจากยางธรรมชาติเปนวัตถุดิบที่มีราคาไมแพง เปนการสงเสริมการใช ยางธรรมชาติในการนํามาทําเปนผลิตภัณฑทําใหยางธรรมชาติมีราคาในเศรษฐกิจเพื่อชวยเหลือเกษตรกรยางพาราไดและยาง ธรรมชาติสามารถหาไดงายในภูมิภาค สวนตะกั่วออกไซดแดงมีความเสถียรและเปนพิษต่ํากวาผงตะกั่วบริสุทธิ์ [2] เพื่อผลิตเปน อุปกรณปองกันรังสีในลักษณะตาง ๆ ดังงานวิจัย เชนการใช Styrene-butadiene rubber ผสมกับ lead oxide [3-5] ซึ่งคาดวา สามารถประยุกตใชในการผลิตอุปกรณปองกันรังสีเทียบเทากับอุปกรณปองกันรังสีมาตรฐาน จึงไดศึกษาคาการดูดกลืนรังสีตอ ปริมาณตะกั่วออกไซดและศึกษาคาการดูดกลืนรังสีเอกซเรยตอความหนาของแผนยางธรรมชาติผสมตะกั่วออกไซดในปริมาณตาง ๆ วิธีดําเนินการ สารเคมี: ในการดําเนินการวิจัยเพื่อเตรียมยางธรรมชาติผสมตะกั่วออกไซดสีแดงสําหรับศึกษาสมบัติการกันรังสีเอกซเรย ใชสารเคมีดังนี้ น้ํายางขน ผลิตโดยบริษัท จะนะน้ํายางจํากัด ซิงคออกไซด (ZnO) ผลิตโดยบริษัท Univenture Public.Co.,Ltd. ประเทศไทย กรดเสตียริค (StearicAcid) จําหนายโดยหางหุนสวนกิจไพบูลยเคมี จํากัด TMTD จําหนายโดยบริษัทเวสเซิลเคมิเคิล จํากัด กํามะถัน (Sulphur) ผลิตโดยบริษัทสยามเคมีจํากัด และตะกั่วออกไซดสีแดง (Pb 3 O 4 ) จําหนายโดยหางหุนสวนกิจไพบูลย เคมี จํากัด เครื่องมือ: เครื่องบดผสมยางสองลูกกลิ้ง ขนาด 6 นิ้ว ผลิตโดยบริษัทยงฟง จํากัด ประเทศไทย เครื่องทดสอบสมบัติ การวัลคาไนซของยาง (Moving Die Rheometer, MDR 2000) ผลิตโดย Alpha Technology Co., Ltd ประเทศสหรัฐอเมริกา เครื่องอัดขึ้นรูป ผลิตโดยบริษัทยงฟง จํากัด ประเทศไทย เครื่องฉายรังสีเอกซเรยติดเพดาน หองปฏิบัติการรังสีวิทยา โรงพยาบาล สงขลานครินทร เครื่องวัดคารังสีเอกซเรย Radcal 9095 ผลิตโดย Radcal Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกา การเตรียมตัวอยางทดสอบ: การผสมตะกั่วออกไซดสีแดงเขากับยางธรรมชาติแบงเปน 2 วิธีคือ วิธีแรกผสมตะกั่วออกไซด สีแดงในสัดสวนตาง ๆ ตามสูตรดังตารางที่ 1 กับยางแหงดวยเครื่องผสมยางสองลูกกลิ้ง การเตรียมยางคอมพาวนดดวยเครื่องบด ผสมสองลูกกลิ้งทําตามขั้นตอนดังแสดงในตารางที่ 2 และวิธีที่ 2 ผสมตะกั่วออกไซดสีแดงกับน้ํายางขนชนิดแอมโมเนียนสูง แผเปน ชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ แลวตากลมใหแหง อบที่อุณหภูมิ 70 °C จนแหงสนิท ทิ้งไวใหเย็นแลวทําเปนยางคอมพาวนดดวยเครื่องผสมยาง สองลูกกลิ้งเชนเดียวกับวิธีแรก เสร็จแลวพักยางคอมพาวนดไวขามคืนแลวทําการวัดสมบัติการวัลคาไนซของยางคอมพาวนดดวย เครื่อง MDR 2000 ที่อุณหภูมิ 145 °C เปนเวลา 30 นาที เพื่อหาคาเวลาการวัลคาไนซ TC95 หลังจากนั้นอัดขึ้นรูปยางคอมพาวนด เปนยางตัวอยางทดสอบขนาดกวาง 13.5X13.5X0.15 เซนติเมตร 3 ดวยเครื่องอัดขึ้นรูปที่อุณหภูมิ 145 °C ใชความดัน 200 psi ตามเวลาที่วัดไดจากเครื่อง MDR 2000

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3