Proceeding2562
1526 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บทนา การแพทย์พื้นบ้านเป็นภูมิปัญญาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและบาบัดรักษาโรคแบบพื้นบ้านที่อยู่คู่กับคนไทยมาแต่ ดั้งเดิม มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งเกิดจากการสังเกตและประสบการณ์จากการปฏิบัติ ผ่านการลองผิดลองถูก คิดค้น พัฒนา และถ่ายทอดกันมาหลายชั่วอายุคน กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความเชื่อ พิธีกรรม ประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชน ภูมิ ปัญญาการแพทย์พื้นบ้านจึงเป็นผลผลิตทางวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ หมอพื้นบ้านมีบทบาท สาคัญในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชน ส่วนใหญ่สืบทอดความรู้มาจากบรรพบุรุษ มีการใช้สมุนไพรที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น มี รูปแบบการปรุงยาที่ง่าย เช่น ต้ม ฝน ดอง เป็นต้น มีวิธีการรักษาหลายรูปแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล อีกทั้ง ในการรักษามีการใช้พิธีกรรมและคาถาอาคม สัมพันธ์กับความเชื่อ ความศรัทธาของคนในชุมชน การรักษาด้วยหมอพื้นบ้านจึง เป็นการบาบัดทั้งทางกายและทางจิตใจควบคู่กันไปเพื่อให้ผู้ป่วยดีขึ้นและหายจากความเจ็บป่วย แม้ปัจจุบันนี้การแพทย์แผนตะวันตกหรือการแพทย์แผนปัจจุบันเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นการแพทย์แผนหลัก ของสังคมไทย ทาให้การแพทย์พื้นบ้านถูกลดบทบาทลง แต่การแพทย์แผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาสุขภาพ ได้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นระบบการแพทย์ที่มีค่าใช้จ่ายที่สูง ต้องพึ่งพิงเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศซึ่ง เป็นข้อจากัดที่สาคัญที่ทาให้การแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน [1] จึงมี ประชาชนจานวนไม่น้อยที่เลือกใช้วิธีการรักษาของการแพทย์พื้นบ้านหรือเลือกใช้การรักษาทั้ง 2 ศาสตร์ควบคู่กันไป การแพทย์พื้นบ้านจึงไม่ได้แยกออกจากการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเด็ดขาดแต่ดารงอยู่อย่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ดังนั้นการ พัฒนาสาธารณสุขจึงควรพัฒนาการแพทย์ทุกระบบไปพร้อมกัน ดังจะเห็นได้ในแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 12 มี เป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพ การจัดการความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย และการแพทย์ทางเลือกให้ มีคุณภาพ มาตรฐาน มีความปลอดภัย ให้เป็นที่ยอมรับและนามาใช้ในการตรวจรักษาโรค และการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ ด้วยภูมิปัญญาไทย [2] แม้จะมีนโยบายสนับสนุนการฟื้นฟูภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านจากภาครัฐ แต่ในปัจจุบันหมอพื้นบ้านกลับมีจานวน ลดน้อยลง ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากหมอพื้นบ้านมักเป็นผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ยังไม่มีศิษย์หรือผู้สืบทอด องค์ความรู้มักสั่งสมอยู่กับ ตัวหมอ ไม่มีการจดบันทึกเป็นตารา หรือหากมีการจาบันทึกก็พบว่า ตาราเหล่านี้อยู่ในสภาพที่เสี่ยงต่อการชารุดเสียหาย หรือมี การชารุดสูญหายไปแล้ว ทาให้องค์ความรู้และภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านอาจสูญหายไปได้ ตาบลเขาพัง อาเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นชุมชนชนบท พื้นที่ส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ เป็นอีก ชุมชนหนึ่งที่หมอพื้นบ้านยังคงมีบทบาทในการดูแลสุขภาพและรักษาความเจ็บป่วยของคนในชุมชน คนในชุมชนให้ความเคารพ นับถือและศรัทธาในตัวหมอพื้นบ้าน แต่หมอพื้นบ้านผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและยังไม่มีผู้ที่จะมาสืบ ทอดองค์ความรู้ ทาให้องค์ความรู้ภูมิปัญญาในการรักษาโรคของหมอพื้นบ้านอาจสูญหายไปได้ จากความสาคัญของการแพทย์พื้นบ้านและบทบาทของหมอพื้นบ้าน ผู้วิจัยจึงตระหนักถึงองค์ความรู้อันทรงคุณค่า ของหมอพื้นบ้านจึงสนใจศึกษารวบรวมภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรของหมอพื้นบ้านในตาบลเขาพัง อาเภอบ้านตาขุน จังหวั ด สุราษฏร์ธานี เพื่ออนุรักษ์ ภูมิปัญญาของการแพทย์พื้นบ้านไม่ให้สูญหายไป และเพื่อนาองค์ความรู้ ภูมิปัญญาเหล่านั้นไปพัฒนา ต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพของประชาชนต่อไป วิธีการวิจัย งานวิจัยนี้ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มหาวิทยาลัยทักษิณ เลขที่ E E003/2560 เป็น การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) มีรายละเอียด ดังนี้ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง การเลือกพื้นที่ ผู้วิจัยได้คัดเลือกพื้นที่แบบจาเพาะเจาะจง คือ ตาบลเขาพัง อาเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฏร์ธานี การคัดเลือกหมอพื้นบ้าน ใช้วิธีการคัดเลือกแบบจาเพาะเจาะจง (Purposive sampling) มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหมอ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3