Proceeding2562
1543 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 3. มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 24 จนถึง 32 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงอายุครรภ์ที่พบภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้มากที่สุด และไม่มีอาการแพ้ท้อง 4. มีการรับรู้และความสามารถในการสื่อสารไม่มีปัญหาทั้งการอ่านและเขียนภาษาไทยและสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ 5. ได้รับการงดน้้างดอาหารก่อนมา รพ. เพื่อเจาะระดับน้้าตาลในเลือด 6. ให้ความร่วมมือในการวิจัย คุณสมบัติกำรคัดออกจำกกลุ่มตัวอย่ำง 1 สตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง ภาวะครรภ์แฝด โรคหัวใจ เป็นต้น 2. สตรีตั้งครรภ์ที่เข้าร่วมโปรแกรมไม่ครบตามระยะเวลาที่ก้าหนด วิธีกำรเลือกและจ้ำนวนของกลุ่มตัวอย่ำง เลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) ตามคุณสมบัติข้างต้น การศึกษาครั้งนี้ค้านวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง ที่ effect size = 0.8 power = 0.80 อ้านาจความเชื่อมั่น .05 ได้กลุ่มตัวอย่างกลุ่มละ 25 ราย 1. ผู้วิจัยส้ารวจรายชื่อและศึกษาประวัติของหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ที่แผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช และคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่ก้าหนด และผู้วิจัยแนะน้าตัวเองสร้างสัมพันธภาพ ชี้แจงวัตถุประสงค์ ขั้นตอนการวิจัย และสอบถามถึงความสมัครใจในการเข้าร่วมวิจัย เปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัย ชี้แจงการ พิทักษ์สิทธิให้กลุ่มตัวอย่างทราบ หากสมัครใจเข้าร่วมวิจัยให้กลุ่มตัวอย่างเซ็นชื่อในใบยินยอมเข้าร่วมวิจัย พร้อมทั้งอธิบายสิทธิ ในการตอบรับ ปฏิเสธ การเข้าร่วมวิจัยโดยไม่มีผลต่อการรักษาใดทั้งสิ้น 2. ผู้วิจัยท้าการเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มควบคุมก่อนและให้การดูแลตามปกติจนครบ 25 ราย จึงท้าการเก็บข้อมูล ในกลุ่มทดลอง และด้าเนินการทดลอง โดยให้การดูแลตามโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น เบาหวาน เป็นรายกลุ่มจนครบ 25 ราย เพื่อป้องกันการปนเปื้อน (contamination) ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มควบคุม ผู้วิจัยจะพบกลุ่มตัวอย่างไม่เกินกลุ่มละ5 คน ณ ห้องโรงเรียนพ่อแม่ แผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช มีการพบกลุ่มตัวอย่าง จ้านวน 2 ครั้ง คือ ในสัปดาห์ที่ 1 และสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ สัปดาห์ที่ 1ใช้เวลา 20 นาที ผู้วิจัยมีการด้าเนินการดังนี้ 1. ผู้วิจัยเข้าพบกลุ่มตัวอย่าง สร้างสัมพันธภาพ แนะน้าตัว พูดคุยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ และความ ร่วมมือในการท้าวิจัย ผู้วิจัยอธิบายแบบสอบถาม และให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของหญิงตั้งครรภ์ที่ เป็นเบาหวาน เจาะระดับน้้าตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหาร และหลังรับประทานอาหาร ๒ ชั่วโมง 2. แจ้งการนัดหมายหญิงตั้งครรภ์อีก 4 สัปดาห์ ตามนัดของแผนกฝากครรภ์พร้อมทั้งงดน้้างดอาหารก่อน มาโรงพยาบาล เพื่อประเมินระดับน้้าตาลในเลือดอีกครั้ง และผู้วิจัยตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูล 3. กลุ่มตัวอย่างได้รับการดูแลตามปกติจากพยาบาลแผนกฝากครรภ์ สัปดาห์ที่ 4 ใช้เวลา 30 นาที ผู้วิจัยมีการด้าเนินการดังนี้ 1. ผู้วิจัยพบกลุ่มตัวอย่างที่นัดหมาย ซักถามอาการและเจาะระดับน้้าตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหาร และหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง 2. ผู้วิจัยแจกคู่มือการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานแก่กลุ่มตัวอย่าง เพื่อรักษาจริยธรรมใน การวิจัย พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มตัวอย่างซักถามข้อสงสัย 3. ผู้วิจัยแจ้งสิ้นสุดการศึกษาครั้งนี้ กล่าวปิดและขอบคุณกลุ่มตัวอย่าง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3