Proceeding2562
1544 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กลุ่มทดลอง ผู้วิจัยพบกลุ่มตัวอย่างไม่เกินกลุ่มละ 5 คน ณ ห้องโรงเรียนพ่อแม่ แผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช มีการพบกลุ่มตัวอย่าง 2 ครั้ง คือใน สัปดาห์ที่ 1 และสัปดาห์ที่ 4 โดยมีรายละเอียดดังนี้ สัปดาห์ที่ 1 ใช้เวลาในการท้ากิจกรรม 60 นาที ผู้วิจัยมีการด้าเนินกิจกรรมโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1. สร้างสัมพันธภาพ ผู้วิจัยเข้าพบกลุ่มตัวอย่าง สร้างสัมพันธภาพแนะน้าตัว พูดคุยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ ขั้นตอนที่ 2 ประเมินภาวะสุขภาพด้านร่างกายและอารมณ์ โดยการเข้าร่วมโปรแกรมด้วยความสมัครใจ ของกลุ่มตัวอย่าง และการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามคุณสมบัติ ทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์ ผู้วิจัยอธิบายแบบสอบถาม และให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น เบาหวาน เจาะระดับน้้าตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหาร และหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ขั้นตอนที่ 3 ประเมินความเชื่อเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลตนเอง โดยการร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความเชื่อ ในขณะตั้งครรภ์และการปฏิบัติตัว เปิดโอกาสให้กลุ่มตัวอย่างร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็น ทัศนคติ ความเชื่อ เกี่ยวกับโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์และพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกก้าลังกายขณะตั้งครรภ์ ขั้นตอนที่ 4 ปรับความเชื่อที่ไม่เหมาะสม โดยการสนับสนุนความเชื่อที่ถูกต้อง และปรับความเชื่อที่ไม่ ถูกต้องร่วมกับการให้ความรู้ เรื่อง การดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์เบาหวาน และร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขั้นตอนที่ 5 สร้างความ เชื่อมั่น ในการดูแลตน เอง โดยการศึกษาสื่อมัลติมี เดีย ( multimedia presentation) หญิงตั้งครรภ์ต้นแบบพร้อมทั้งแจกคู่มือการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวาน และแนะน้าให้กลับไป ปฏิบัติพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกก้าลังกายที่เหมาะสมเองที่บ้านทุกวันแล้วบันทึกลงในแบบบันทึกการ รับประทานอาหารและแบบบันทึกพฤติกรรมการออกก้าลังกายด้านหลังคู่มือ ขั้นตอนที่ 6 การเสริมแรงโดยการกล่าวชักจูง และให้ก้าลังใจ ให้กลุ่มตัวอย่างเกิดความมั่นใจใน ความสามารถของตนเองตลอดการท้ากลุ่ม 2. ผู้วิจัยเปิดโอกาสให้กลุ่มตัวอย่างซักถามข้อสงสัย กล่าวสรุปและกล่าวขอบคุณพร้อมทั้งนัดหมายการเข้าร่วม โปรแกรมครั้งต่อไป อีก 4 สัปดาห์ พร้อมทั้งให้งดน้้างดอาหารก่อนมาโรงพยาบาล สัปดาห์ที่ 2 และ 3 ขั้นตอนที่ 6 การเสริมแรง โดยผู้วิจัยติดตามกลุ่มตัวอย่างทางโทรศัพท์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้เวลาครั้งละ 5- 10 นาทีเพื่อซักถามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกก้าลังกายที่เหมาะสมที่บ้าน และ ร่วมกันแก้ปัญหา พูดคุยให้ก้าลังใจ และชื่นชม กลุ่มตัวอย่างที่สามารถปฏิบัติได้เหมาะสมแล้ว สัปดาห์ที่ 4 ใช้เวลาในการท้ากิจกรรม 30 นาที ผู้วิจัยมีการด้าเนินการดังนี้ 1. ผู้วิจัยเข้าพบกลุ่มตัวอย่างตามที่นัดหมายไว้ กล่าวทักทาย และให้กลุ่มตัวอย่างแต่ละคนร่วมพูดคุยถึงปัญหา อุปสรรค ความรู้สึก เกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกก้าลังกายที่ได้ไปปฏิบัติเองที่บ้าน และร่วมกัน แลกเปลี่ยนวิธีการแก้ไขปัญหาและความคิดเห็น 2. ผู้วิจัยจดบันทึกข้อมูลระดับน้้าตาลในเลือดกลุ่มตัวอย่างก่อนรับประทานอาหาร และหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมงภายหลังเข้าร่วมโปรแกรมจากสมุดบันทึกระดับน้้าตาลในเลือด 3. ผู้วิจัยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แล้วกล่าวสรุปการเข้าร่วมโปรแกรมพร้อมทั้งแจ้งสิ้นสุดการศึกษาครั้งนี้ กล่าวปิด และขอบคุณกลุ่มตัวอย่าง ผลกำรวิจัยและอภิปรำยผลกำรวิจัย 1. ข้อมูลทั่วไป พบว่ากลุ่มทดลองเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่มีมีอายุระหว่าง 23 – 45 ปี ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 34.32 ปี (SD = 5.79) รายได้เฉลี่ย 18,260 บาทต่อเดือน ส่วนกลุ่มควบคุมมีอายุระหว่าง 29 – 45 ปี ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 36.64 ปี (SD = 4.08) มีรายได้
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3