Proceeding2562
1545 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เฉลี่ย 19,120 บาทต่อเดือน กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีอาชีพแม่บ้าน (ร้อยละ 36 และร้อยละ 52) ส่วนใหญ่เป็นการตั้งครรภ์ หลัง (ร้อยละ 76 และร้อยละ 68) และเคยได้รับความรู้เรื่องโรคเบาหวานมาก่อน (ร้อยละ 68 และร้อยละ 84) ซึ่งได้รับจาก พยาบาล (ร้อยละ 41 และร้อยละ 70) และส่วนใหญ่เคยออกก้าลังกายก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (ร้อยละ 56 และ ร้อยละ 64) โดยใช้วิธีการเดิน (ร้อยละ 85.7 และร้อยละ 36.30) เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการตั้งครรภ์ทั้งสองกลุ่ม โดยใช้สถิติไค-สแควร์ (chi-square test) สถิติฟิชเชอร์ (Fisher’s exact test) ไลลีฮูด (Likelyhood Ratio) และสถิติทีอิสระ (independent t-test) พบว่ากลุ่มตัวอย่างทั้ง สองกลุ่มมีข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการตั้งครรภ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ (p > .05) 2. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระดับน้้าตาลในเลือดกลุ่มทดลองก่อนและหลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน ตำรำงที่ 1 เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระดับน้้าตาลในเลือดกลุ่มทดลองก่อนและหลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน โดยใช้สถิติทีคู่ (n=25) ตัวแปร ก่อน หลัง t M SD M SD FBS 116.32 3.58 98.08 4.82 19.97* 2 hr. pp 125.44 4.30 112.08 5.01 25.90* * P<.001 จากตารางที่ 1 พบว่ากลุ่มทดลองก่อนเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนมีค่าเฉลี่ยระดับน้้าตาลในเลือดก่อนรับประทาน อาหาร ( M = 116.32, SD = 3.58) และระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ( M =125.44, SD = 4.30) สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับ น้้าตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหาร ( M = 98.08, SD = 4.82) และระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ( M =112.08, SD = 5.01) หลังเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน อย่างมีนัยส้าคัญทางสถิต ( t = 19.97, p < .001 และ t = 25.90, p < .001) 3. เปรียบเทียบระดับน้้าตาลในเลือดระหว่างกลุ่มทดลองหลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนกับกลุ่มควบคุมหลัง ได้รับการพยาบาลตามปกติ ตำรำงที่ 2 เปรียบเทียบระดับน้้าตาลในเลือดระหว่างกลุ่มทดลองหลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนกับกลุ่มควบคุม หลังได้รับการพยาบาลตามปกติโดยใช้สถิติทีอิสระ (N=50) ตัวแปร กลุ่มทดลอง กลุ่มควบคุม t M SD M SD FBS 98.08 4.82 115.92 5.63 12.04* 2 hr. pp 112.08 5.01 127.48 2.83 13.37* * P<.001 จากตารางที่ 2 พบว่าหลังเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยระดับน้้าตาลในเลือดก่อน รับประทานอาหาร ( M = 115.92, SD = 5.63) และระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ( M =127.48, SD = 2.83) สูง กว่าระดับน้้าตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหาร ( M = 116.32, SD = 3.58) และระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง ( M =125.44, SD = 4.30) ของกลุ่มทดลอง อย่างมีนัยส้าคัญทางสถิต ( t = 12.04, p < .001 และ t = 13.37, p < .001) สรุปผลกำรวิจัย จากการศึกษาเปรียบเทียบระดับน้้าตาลในเลือดของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานพบว่า 1) หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานมีระดับ น้้าตาลในเลือดก่อนรับประทานอาหารและระดับน้้าตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมงก่อนได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่ง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3