Proceeding2562

2102 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กับความเหลื่อมทางรายได้ (Gini) ในทิศทางตรงกันข้าม กล่าวคือ ถ้าระดับการศึกษาเปลี่ยนแปลง 1 หน่วย ทาให้ความ เหลื่อมลาทางรายได้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ซึ่งมีค่าการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 98.36 เปอร์เซ็นต์ ในทิศทางตรงกันข้าม ณ ระดับนัยสาคัญที่ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับผลที่คาดว่าจะได้รับและผลการศึกษาของ Apergis et al[4] กล่าวว่า ระดับ การศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกามีผลกระทบเชิงลบกับความเหลื่อมลาทางรายได้ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ Gunther rehme[5]กล่าวว่า การเพิ่มขึนของการศึกษาจะลดความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ เนื่องจากรัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือครัวเรือน ที่มีรายได้ต่าให้บุตรในครัวเรือนนันมีการพัฒนาทางด้านการศึกษาที่ดี หรือ มีทักษะความรู้ทางทฤษฎีควบคู่กับการปฏิบัติทา ให้ประชาชนที่ไม่ได้รับการศึกษาให้มีความรู้ไม่แตกต่างคนที่มีการศึกษา เช่น เงินเพื่อการศึกษา จะทาให้การแข่งขันในตลาด ตลาดแรงงาน หรือการแข่งขันทางสังคม รายได้ส่วนใหญ่จะไม่ไปตกอยู่กับประชาชนที่มีการศึกษาการสูงกว่า ส่งผลให้ความ เหลื่อมลาทางรายได้ในประเทศลดลง คอรัปชั่น ( Corrup_in ) ไม่มีความสัมพันธ์กับความเหลื่อมทางรายได้ (Gini) กล่าวคือ ถ้าระดับการคอรัปชั่น เปลี่ยนแปลง 1 หน่วย จะไม่มีอิทธิพลต่อความเหลื่อมลาทางรายได้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลที่คาดว่าจะได้รับและผลการศึกษา ของ Apergis et al. [4] และ ศุภเจตน์ จันทร์สาส์น [8] Apergis et al [4] กล่าวว่า การทุจริตคอรัปชั่นมีผลกระทบต่อความ เหลื่อมลาทางรายได้ในเชิงบวก และ ศุภเจตน์ จันทร์สาส์น [8] ได้กล่าวว่า การคอรัปชั่นมีความสัมพันธ์ในทางเชิงบวกกับ ความเหลื่อมลาทางรายได้ ดังนันจากผลการศึกษาครังนีผู้วิจัยไม่เห็นด้วยกับผลการศึกษา เนื่องจาก กลุ่มประเทศที่พัฒนา แล้วที่ใช้ในการศึกษาในครังนีมีข้อมูลในส่วนของการทุจริตคอรัปชั่นค่อนข้างน้อยหรือบางกลุ่มประเทศไม่มีการเปิดเผยของ ข้อมูล ทาให้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นจึงไม่ได้ส่งผลต่อความเหลื่อมลาทางรายได้ ผลการศึกษาครังนีในเรื่องความเหลื่อม ลาทางรายได้ภาครัฐบาลสามารถนาไปเป็นข้อมูลพืนฐานในการปรับใช้นโยบายในการพัฒนาประเทศและรักษาเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถใช้นโยบายมีประสิทธิภาพมาก ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1. ผลจากการศึกษาพบว่าระบบการศึกษาส่งผลต่อความเหลื่อมลาทางรายได้ การจัดการศึกษาที่ดีเป็นการพัฒนาทุน มนุษย์ที่เป็นปัจจัยสาคัญในกระบวนการพัฒนาทางเศรษฐกิจสังคม ดังนัน การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องบูรณา การความคิดและเครื่องมือการวิเคราะหจากศาสตรหลายแขนง เรียกว่า “การศึกษาเชิงสร้างสรรค์” [12] การศึกษาช่วยทา ให้รายได้ประชาชาติเพิ่มมากขึน การที่คนได้รับการศึกษาสูงขึนถือได้ว่าเป็นการเพิ่มความสามารถในการผลิต ทาให้มีสินค้า และบริการได้เพิ่มมากขึน เมื่อประชาชนมีความคิดสร้างสรรค์จากการนาแนวคิดจากหลายศาสตร์มาทาให้รายได้ของ ประชาชนเพิ่มขึน ก ารศึกษายังมีบทบาทในการช่วยให้มีการจัดสรรทรัพยากรอันจากัดดีขึนคือ ผู้ผลิตสามารถจัดสรรปัจจัย การผลิตอย่างไรจึงเหมาะสม และจะผลิตสินค้าอย่างไรที่เป็นที่ตรงตามความต้องการของตลาด ในการพัฒนาด้านการลด ว่างทางเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาผู้อยู่นอกระบบการศึกษาให้มีความเสมอภาพ โดยการมีการจัดการศึกษาให้ประชากรที่อยู่ นอกระบบการศึกษา แบบเรียน ความรู้ที่ถ่ายทอด โดยประยุกต์ใช้กับการศึกษาเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างให้สมาชิกของ ชุมชนและสังคมเป็นประชากรที่มีการศึกษาตลอดชีวิต ( life – long education ) ทาให้ประชาชนที่ศึกษานอกระบบ สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดแรงงานได้โดยมีความรู้ไม่แตกต่างกับประชาชนที่ศึกษาในระบบ สามารถลดช่องทางโอกาส การศึกษาได้ อย่างไรก็ตาม ประเทศที่พัฒนาและประเทศกาลังพัฒนาให้ความสนใจกับการปฏิรูประบบการศึกษาให้เป็น รูปธรรมมากที่สุด ดังนันรัฐบาลควรเข้ามาแทรกแซงในการใช้งบประมาณในด้านของเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาส ทางการศึกษาให้กลุ่มบุคคลที่มีระดับรายได้ต่า หรือ การประเมินและตรวจสอบบุคคลากรทางด้านการศึกษาในพืนที่ ต่างจังหวัดให้มีทักษะทางด้านความรู้ไม่แตกต่างกับบุคลากรทางด้านการศึกษาในพืนที่จังหวัด เมื่อระดับการศึกษาของ ประเทศสูงขึนจะทาให้ความเหลื่อมทางรายได้ลดลง

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3