Proceeding2562

2148 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 7 กล่าวว่า เด็กที่กระทาความผิดส่วนใหญ่ทางานหาเงินเพื่อซื้อยาเสพติดเอง และมีรายได้สูงกว่าหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน แสดงว่าคน ที่มีรายได้มากกว่ามีความสนใจและกระทาความผิดมากกว่าคนที่มีรายได้น้อย สรุปผลกำรวิจัยและข้อเสนอแนะ จุดประสงค์หลักของการศึกษาครั้งนี้ คือ การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อจานวนคดีความยาเสพติดของเด็กและ เยาวชน เป็นการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อจานวนคดีความยาเสพติดของเด็ก 77 จังหวัดในประเทศไทย พ.ศ.2557 ทาให้ทราบว่า จานวนคดีความยาเสพติด เกิดจาก 4 ปัจจัย คือ จานวนเด็กที่ได้รับการศึกษา จานวนสถานีตารวจ จานวนวัด และสัดส่วนคนจน ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยมีนัยสาคัญ ทาให้เกิดจานวนคดีความยาเสพติดของเด็กเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ส่วนปัจจัยที่ไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด การหย่าร้างของบิดามารดา และ จานวนสถานบริการ จากผลการศึกษา สถานศึกษาหรือโรงเรียนมีส่วนสาคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดจานวนคดีความของเด็กและเยาวชนลงได้ หากไม่เร่งดาเนินการแก้ไขปัญหา อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยสถานศึกษาทุกแห่งควรมีมาตรฐานที่ เท่าเทียมกัน และกาหนดมาตรการต่าง ๆขึ้นมาแก้ไข เช่น การให้ความรู้หรือผนวกเนื้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเข้าไว้ในวิชาต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้อง การจัดนิทรรศการ การจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในโรงเรียน การฝึกทักษะชีวิตเพื่อรู้จักปฏิเสธยาเสพติด และ หากมีกลุ่มนักเรียนที่มีประสบการณ์หรือเป็นนกลุ่มเสี่ยงต่อการใช้ยาเสพติด ควรจัดให้มีมุมบริการปรึกษาแนะแนว ให้คาปรึกษา ปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งฝึกทากิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน เพื่อปรับพฤติกรรมให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม กลุ่มนักเรียนที่ติดยาเสพติด โรงเรียนควรประสานให้ผู้ปกครองส่งตัวเข้ารับการบาบัดรักษาและฟื้นฟู เมื่อรักษาหายแล้วสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ อย่างปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดคดีความยาเสพติดในเด็กและเยาวชน หน่วยงานทางราชการอย่างสถานีตารวจที่มีจานวน เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีจานวนคดีความยาเสพติดเพิ่มขึ้นด้วย เป็นผลจากการจับกุมและดาเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่กระจายและ ครอบคลุมแต่ละพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในระยะยาวสานักงานตารวจแห่งชาติไม่ควรจะทาหน้าที่การปราบปราม แต่ควรจะทาหน้าที่ ป้องกันและให้ความรู้เรื่องยาเสพติด เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น เด็กและเยาวชนก็จะเกรงกลัวและตระหนัก ถึงโทษที่จะได้รับมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้จานวนคดีความยาเสพติดของเด็กและเยาวชนลดลงในที่สุด ในด้านของจานวนวัดโดยมี ความรวมถึงบทบาทของพระสงฆ์ ควรส่งเสริมและจัดให้มีการเข้าค่ายอบรม เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเป็นคนดีในสังคมและ หลีกเลี่ยงปัญหายาเสพติด ควรมีการเผยแพร่หลักการป้องกันยาเสพติดให้รู้ถึงโทษและภัยที่เกิดขึ้น อบรมคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมอันดีให้กับเด็กและเยาวชนเช่นกัน นอกจากนี้สัดส่วนคนจนก็แสดงให้เห็นว่า การที่สังคมมีจานวนคนจนเพิ่มขึ้น จะ มีผลทาให้เกิดคดีความยาเสพติดในเด็กและเยาวชนลดลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความยากจนนั้นส่งผลให้เกิดความเครียดหรือ เกิดปัญหาต่าง ๆ ทาให้มีความเสี่ยงในการใช้ยาเสพติด อย่างไรก็ตามคนทุกชั้นก็มีส่วนทาให้เกิดคดีความยาเสพติดเช่นกัน ไม่ เพียงแต่คนจนเท่านั้น เพราะทุกคนต่างจะรักษาไว้ซึ่งระดับชั้นทางเศรษฐกิจและสังคมของตน ดังนั้นการแก้ไขปัญหา ภาครัฐและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ควรมุ่งมายังกลุ่มคนจนเพียงกลุ่มเดียว แต่ควรครอบคลุมคนทุกชั้นในสังคมจึงจะเป็นการแก้ปัญหาอย่าง มีประสิทธิภาพที่แท้จริง เอกสำรอ้ำงอิง [1] กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน. (2557). รายงานสถิติคดี ประจาปี พ.ศ. 2557. กระทรวงยุติธรรม.

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3