Proceeding2562

56 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 29 ประจ�ำปี 2562 วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามคุณสมบัติโบราณาจารย ไดวางรูปแบบไวเปนแบบแผน ทําใหในการประพันธในแตละเที่ยวมีความแตกตางกัน ดังนี้ คือ 1) เที่ยวแรกมีการดําเนินทํานองเรียบรอยเพื่ออวดการทําเนินทํานองอยางมีแบบแผนจนถึงชวงใกลกลับตน จึงมีการกระชับแนวใหมีความสนุกสนาน 2) เที่ยวที่สองมีการลักจังหวะมีการโขกมีการดูดเพื่อแสดงเทคนิคของ ระนาดทุมแตยังมีการดําเนินกลอนตามแบบแผน สรุปผล ผลจากการศึกษาเรื่องการประพันธทางเดี่ยวระนาดทุม เพลงพญารําพึง สามชั้น ตามวัตถุประสงคขอที่ 1 พบวา เพลงพญารําพึงจัดอยูในเพลงเรื่องพญาโศกเปนเพลงที่อยูในสมัยกรุงศรีอยุธยามีการเรียงลําดับเพลงเปน เรื่องราว ดังนี้ 1) พญาฝน คือ ฝนถึงเรื่องราย 2) พญาโศก คือ เมื่อฝนรายจึงตื่นมาถึงโศกเศรารองไห 3) พญาครวญ คือ เมื่อโศกเศราจึงครวญคร่ํา 4) พญาตรึก ครวญคร่ําจนรูสึกคิดถึงและ 5) พญารําพึง คือ คิดถึงจนตองคะนึงหา โดยมีการแยกมารองประกอบมโหรีและการแสดงโขนในบทที่แสดงอารมณเศราสลด ซึ่งการเรียงลําดับนี้ถือเปน รูปแบบการเรียงลําดับเพลงของสายสํานักพระยาเสนาะดุริยางค ซึ่งมีนํามาบรรเลงเปนทางเดี่ยวซอสามสายโดย อาจารย เจริญใจ สุนทราวาทิน ไดใชทางของสายสํานักพระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตตเสวี)ในการบรรเลง จนกระทั่งสมัย ปลายรัชกาลที่ 4 พระประดิษฐไพเราะ(ครูมีแขก) แตงขึ้นเปน สามชั้นสําหรับรับรองและบรรเลงมโหรีปพาทย สําหรับในรูปแบบการประพันธทางเดี่ยวในเครื่องปพาทยนั้นพบวา ครูบุญยงค เกตุคง เคยทําเปนทางเดี่ยวระนาด เอกไวใหแกวงกรุงเทพฯ เคยมีการนํามาบรรเลงในงานสังคีตศาลา ดวยเหตุที่วาเพลงพญารําพึงมีรูปแบบการดําเนิน ทํานองแบบเพลงพญาโศกในเรื่องการมีลูกเทาซ้ําเยอะ มีการเปลี่ยนบันไดเสียงเกือบตลอดเพลง ดังนั้นเพลงพญา รําพึงจึงถือเปนเพลงที่นาดึงดูดเชนเพลงพญาโศก ขอที่ 2 ผูวิจัยพบวาเพลงพญารําพึง สาม เปนเพลงทอนเดี่ยว จึงได ประพันธทางเดี่ยว ระนาดทุม เพลงพญารําพึง สามชั้น โดยการแบงเปน 2 เที่ยว ดวยกัน คือ 1) เที่ยวแรกมีการ ดําเนินทํานองเรียบรอยเพื่ออวดการทําเนินทํานองอยางมีแบบแผนจนถึงชวงใกลกลับตนจึงมีการกระชับแนวใหมี ความสนุกสนาน 2) เที่ยวที่สองมีการลักจังหวะ ,การโขก และ การดูดเพื่อแสดงเทคนิคของระนาดทุมแตยังมีการ ดําเนินกลอนตามแบบแผน คือ จบซายเริ่มขวา จบขวาเริ่มซาย เอกสารอางอิง [1] Phuphet, W. (2017). Laopan analysis of Samarn Thongsuchot’s Ranad tum solo Style A case study of Dr. Dussadee Meepom . Bangkok : Master of Fine Arts Program in Thai Music Bunditpatanasilpa Institute. (In Thai) [2] Charoen, N. (2009). Musical analysis of Krawnai for ranadthum solo : a case study of Kru Uthai Keolaiad . Bangkok : Master of Arts Program in Thai Music Department of Music Faculty of Fine and Applied Arts Chulalongkorn University. (In Thai) [3] Sirirattanachaikun, S. (2009). Musical analysis of sarathi sam chan solo for ranad thum by khru Sompob Khumprasert . Bangkok : Master of Arts Program in Thai Music Faculty of Fine and Applied Arts Chulalongkorn University. (In Thai) [4] Mangkron, P. (2007). A Musical analysis of Tayoy Deaw Solo for Ranad Thum by Subsak Duriyapaneet . Bangkok : Master of Arts Program in Thai Music Faculty of Fine and Applied Arts Chulalongkorn University. (In Thai)