งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร
งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 109 ปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับมันสาปะหลัง เกษตรกรบางรายใช้ปุ๋ยเคมีมากหรือน้อยไป ยังขาดความเข้าใจเรื่องธาตุ อาหารพืช ส่งผลให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนต่า การปลูกพืชโดยการใช้ปุ๋ยเคมีจะมีข้อจากัดสาหรับเกษตรกร รายย่อยเพราะปุ๋ยเคมีราคาแพงและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปีรวมทั้งการใส่ปุ๋ยเคมีต่อเนื่องระยะยาวส่งผลให้ โครงสร้างดินด้านกายภาพเสียไป เช่น ดินแน่นและแข็ง ดินเป็นกรดมากขึ้น ซึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาดัง กล่าวคือ การจัดการธาตุอาหารพืชให้เหมาะสมกับความต้องการมันสาปะหลังและการเลือกใช้ปัจจัยการผลิตที่ ดีและเหมาะสมช่วยส่งเสริมผลผลิตและผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่การลงทุน จากผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ได้มีมันสาปะหลังพันธุ์ใหม่ ระยอง 15 ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ที่อายุ 8 เดือน ปลูกได้ 3 รอบต่อ 2 ปี ให้ผลผลิตหัวสดสูงถึง 4,632 กก./ไร่ และให้ผลผลิตแป้งสูง 1,355 กก./ไร่ สูงกว่ามันสาปะหลังพันธุ์ระยอง 5 ระยอง 7 ระยอง 72 และเกษตรศาสตร์ 50 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และให้เปอร์เซ็นต์แป้งสูง 29.2 เปอร์เซ็นต์ (กลุ่มประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่, 2562) รวมถึงการจัดการปุ๋ยตามอัตราแนะนาตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ในเขตพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พบว่าการใส่ปุ๋ยตามอัตราแนะนาตามค่าวิเคราะห์ดินสามารถให้ผลผลิตมัน สาปะหลังเพิ่มขึ้นและสูงกว่าวิธีเกษตรกร 10% และมีต้นทุนเฉลี่ยการผลิตต่ากว่าวิธีเ กษตรกร 15% และ มีเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสาปะหลังโดยการใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ -ทรี (PGPR : Plant Growth Promoting Rhizobacteria) สามารถตรึงไนโตรเจน ละลายธาตุอาหารที่ตรึงอยู่ในดิน และสร้างสาร กระตุนการเจริญเติบโตคลายออกซิน (IAA) โดยแบคทีเรียเหล่านี้สามารถตรึงไนโตรเจนเพิ่มรูปที่เป็นประโยชน ของธาตุอาหารพืชบางชนิดในดิน สงเสริมการเจริญเติบโตของรากอ้อยและมันสาปะหลังจึงช่วยเพิ่มพื้นที่ผิว รากทาใหเพิ่มการดูดน้าและปุยได้ดี (กลุ่มงานวิจัยจุลินทรีย์ดิน, 2548) จากการศึกษาผลการใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพี อาร์ เพื่อให้ได้ปุ๋ยชีวภาพที่เหมาะสมในการส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนในการผลิตมัน สาปะหลังในดินทรายและดินร่วนทรายของ ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง และคณะ (2557) พบว่าในดินทรายปุ๋ย ชีวภาพพีจีพีอาร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดใช้ธาตุอาหาร 20 % และยังช่วยเพิ่มผลผลิตขึ้น 5% และการใส่ ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินอัตราตามคาแนะนาให้ผลผลิตและปริมาณแป้งมันสาปะหลังเทียบเท่ากับการใส่ปุ๋ยเคมี อย่างเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ และจากผลการทดลองนี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี ไนโตรเจน และโพแทสเซียมได้สูงถึง 75% ของอัตราแนะนาตามค่าวิเคราะห์ดิน นอกจากนี้ยังพบว่ากรรมวิธีที่ใส่ปุ๋ยเคมี อัตราแนะนาตามค่าวิเคราะห์ดิน 100% ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ ให้รายได้สุทธิสูงที่สุดส่วนในดินร่วนปน ทรายการใส่ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจน และยังให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ เ พิ่มขึ้นอย่ า ง เ ด่นชัดด้วย ( Amarawan et al. , 2013 , Meunchang et al. , 2012 ) เ ช่น เ ดียวกัน นิมิตร วงศ์สุวรรณ และคณะ (2565) พบว่า การใส่ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์–ทรี ทาให้มันสาปะหลังมีผลผลิต หัวมันสด เพิ่มขึ้น 13.9% ซึ่งการจะนาผลงานวิจัยดังกล่าวมาใช้จาเป็นต้องทดสอบในแปลงเกษตรกรแต่ละ สภาพแวดล้อม เพื่อยืนยันว่าสามารถเพิ่มผลผลิตได้จริง หรือนาไปปรับใช้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพ ปัญหา และปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ ทดสอบพันธุ์มันสาปะหลังระยอง 15 เพื่อเก็บเกี่ยวอายุ 8 เดือนร่วมกับเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยเคมีตาม
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3