งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร

งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 111 ข้อมูลด้านเศรษฐศาสตร์ ได้แก่ ต้นทุน รายได้ รายได้สุทธิ ต้นทุนปุ๋ยเคมี และวิเคราะห์อัตรา ผลตอบแทนต่อค่าใช้จ่ายการลงทุน (Benefit Cost Ratio : BCR) คานวณได้จาก B/C ratio = Benefit/Cost (B/C > 1 คุ้มค่าการลงทุน, B/C = 1 เท่าทุน, B/C < 1 ไม่คุ้มทุน ขาดทุน) และประเมินความพึงพอใจ และการ ยอมรับเทคโนโลยีของเกษตรกรที่เข้าร่วมทดสอบ ผลและอภิปราย (Result and Discussion) คัดเลือกพื้นที่ดาเนินการเป็นพื้นที่แปลงใหญ่มันสาปะหลัง ตาบลห้วยเตย อาเภอกุดรัง จากการ วิเคราะห์พื้นที่ พบว่า เกษตรกรมีการปลูกมันสาปะหลังมานาน โดยปลูกทั้งระบบปลายฝนและต้นฝน ส่วนใหญ่ ปลูกพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ซึ่งเก็บเกี่ยวมันสาปะหลังที่อายุ 6-10 เดือน เนื่องจากในฤดูฝนดินอุ้มน้าทาให้ หัวมันเน่า เกษตรกรจึงต้องรีบเก็บผลผลิต ทาให้ได้ผลผลิตต่า ดังนั้นเกษตรกรจึงมีความต้องการมันสาปะหลัง พันธุ์ใหม่ๆ ที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นลงและให้ผลผลิตสูง จึงได้นามันสาปะหลังพันธุ์ระยอง 15 ที่เป็นพันธุ์เก็บเกี่ยวที่ อายุ 8 เดือน มาทดสอบในพื้นที่เกษตรกร มีเกษตรกรร่วมดาเนินการทดสอบจานวน 10 ราย พื้นที่ 20 ไร่ ผลวิเคราะห์คุณสมบัติดิน พบว่า ดินแปลงเกษตรกรมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ( pH) อยู่ระหว่าง 4.50-6.03 มีค่าเฉลี่ย 5.32 ค่าอินทรียวัตถุ (OM) 0.21 – 0.51% มีค่าเฉลี่ย 0.30 ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 7.10-85.77 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีค่าเฉลี่ย 30.98 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ 13.2-26.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีค่าเฉลี่ย 19.78 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จากผลวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดิน พบว่า ต้องใส่ปุ๋ยตามปริมาณธาตุอาหารที่แนะนา คือ 16-8-16 และ 16-4-16 (ตารางที่ 1) และจากการ สัมภาษณ์เกษตรกรมีการใช้เพียงปุ๋ยสูตร 15-15-15, 16-8-8 และ 16-8-16 อัตรา 50 กก./ไร่ ซึ่งเมื่อเทียบกับ ความต้องการของพืชพบว่าเกษตรกรมีการใช้ปุ๋ยที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของมันสาปะหลังตามค่า วิเคราะห์ดิน ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทราย มีค่า pH อยู่ในระดับเหมาะสม ปริมาณอินทรีย์วัตถุใน ดินอยู่ในระดับต่า ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยน ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ใส่ปุ๋ยในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการธาตุอาหารของมันสาปะหลัง ซึ่งสมบัติดิน ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของมันสาปะหลังคือ ดินที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ( pH) อยู่ที่ 5.0-6.5 อินทรียวัตถุ 0.65-1.0 % ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์์อยู่ระหว่าง 5-15 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โพแทสเซียมที่ แลกเปลี่ยนได้ 38-64 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม การใส่ปุ๋ยอัตราแนะนา 16-8-16 กก./ไร่ ของ N-P 2 O 5 -K 2 O ทาให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (กอบเกียรติ ไพศาลเจริญ และคณะ, 2554)

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3