งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร

งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 119 Abstract Evaluating the cassava variety ‘ Rayong 15’ for 8 month harvest period in Roi Et province aimed to assess the production methods associated with such variety under the Roi Et condition. This experiment compared two methods: Method 1, the test method of planting ‘Rayong 15’ cassava, and Method 2, the farmer's traditional method, which involves planting both the ‘Rayong 15’ variety and the currently used cassava variety. The test was conducted at Tambon Kham Nadi and Tambon Waeng, Amphoe Phon Thong, Roi Et province during May - December 2023, where rain-fed areas. Statistical data analysis by comparing the differences in means using the t- test method. The study involved 10 participated farmers and encompassed a test area of 20 rai. The test method results indicated that the average fresh cassava root yield of ‘ Rayong 15’ was 5,100 kg/ rai, higher than the average yield obtained using the farmer's method, recorded at 4,202 kg/rai. This represents a difference of 898 kg/rai, or an increase of 24 percent. In terms of starch content, the test method demonstrated a higher starch percentage than the farmer's method, with values of 29. 3 percent and 28. 7 percent, respectively. When considering the net income of farmers, it was found that they experienced an increase of 3,198 baht/ rai, or 34 percent. This increase in income led to high farmer satisfaction with the Rayong 15 cassava variety regarding returns, harvesting, stalk quality, yield, and starch quality. Keywords: Cassava , Rayong15, Fertilizer according to soil analysis values, PGPR III biofertilizer บทนา (Introduction) มันสาปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย พื้นที่ปลูกมันสาปะหลังพบทั่วทุกภาคของประเทศ ไทย ยกเว้นภาคใต้ ภาคที่มีการปลูกมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ปลูกมันสาปะหลังทั้งประเทศ ซึ่งทั้งประเทศมีพื้นที่ปลูก 10,871,975 ไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5,884,274 ไร่ จังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่ปลูกมันสาปะหลัง 66,130 ไร่ (สานักเศรษฐกิจการเกษตร, 2565) ซึ่งในแต่ละพื้นที่ การผลิตมีความแตกต่างในกันในเรื่องสภาพแวดล้อม ลักษณะเนื้อดิน อากาศ อุณหภูมิ ปริมาณน้าฝน การกระจายตัวของฝน สภาพเศรษฐกิจ และสังคม ส่งผลให้การตัดสินใจการเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตมัน สาปะหลัง แตกต่างกัน ผลผลิตที่ได้แตกต่างกัน โดยแนวทางในการเพิ่มผลผลิตมันสาปะหลังในพื้นที่คือ การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ร่วมกับการจัดการที่ดีและเหมาะสม พันธุ์มันสาปะหลังให้เหมาะสม กับสภาพพื้นที่จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสาปะหลังให้ได้สูงสุดตามศักยภาพของ พื้นที่และศักยภาพของพันธุ์ได้ สานักเศรษฐกิจการเกษตร (2558) แสดงข้อมูลพื้นที่ปลูกพันธุ์มันสาปะหลังใน พื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่าพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ปลูกมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ระยอง 7 และระยอง 90 เป็นพันธุ์อายุเก็บเกี่ยว 10 เดือนขึ้นไป ประเด็นปัญหาการผลิตมันสาปะหลังของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัด ร้อยเอ็ด คือ ผลผลิตต่า เปอร์เซ็นต์แป้งต่า สาเหตุจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตอายุสั้นไม่ถึง 8 เดือน ซึ่งบางครั้ง