งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร

งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 160 Abstract Five types of leaf-eating plants are Lime Berry ( Clausena cambodiana Guill), Mun Pu. ( Glochidion wallichianum Muell. Arg. ) , Hog Plum ( Spondias pinnata ( L. f. ) Kurz) , Phak Wan Chang ( Claoxylon longifolium (Blume) Endl. ex Hassk.) , and Baegu ( Gnetum gnemon ) . They were interplanted between rows of bitter beans ( Parkia speciosa Hassk. ) to study the yield, returns, and effects of interplanting plants when the operation was carried out from 2022 to 2024 at Trang Horticultural Research Center. G. wallichianum produces maximum and consistent yield throughout the year followed by C. longifolium , S. pinnata , C. cambodiana , and G. gnemon , respectively. Total production of 20 times found that G. wallichianum product weight maximum at 2,227.20 kg/rai. followed by C. longifolium , S. pinnata , C. cambodiana , and G. gnemon were 1,382.40, 780.80, 691.20, and 678.40 kg/rai, respectively. Total production costs for two years are the same at 44,315 baht/rai. G. wallichianum with the highest income in the second year at 89,088 baht/rai followed by C. longifolium (82,944), S. pinnata (50,752), C. cambodiana (34,560), and G. gnemon (37,312) baht/rai, respectively. The cost-benefit ratios were 2. 01, 1. 87, 1. 15, 0. 78, and 0. 84 times, respectively. Benefit Cost Ratio ( BCR) were 2. 01, 1.87, 1.15, 0.78, and 0.84 times, respectively. Therefore, G. wallichianum and C. longifolium are leaf-eating plants suitable for companion planting with P. speciosa . Keywords: leaf-eating shrub, Glochidion wallichianum MuellArg, Income, Rate of return on cost. บทนา (Introduction) สะตอเป็นพืชพื้นเมืองและผักยืนต้นเศรษฐกิจสาคัญของภาคใต้ ปัจจุบันมีคนนิยมบริโภคจานวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจึงนับเป็นพืชที่มีศักยภาพทางการตลาดสูง สะตอเป็นพืชที่มีลาต้นสูงและทรงพุ่ม ขนาดใหญ่ ใช้ระยะปลูกระหว่างต้นและแถว 8-10 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ปลูกได้ 16-25 ต้น ทั้งนี้สะตอมีเรือนยอด ที่โปร่งและใบเล็กปริมาณแสงสามารถส่องได้ถึงโคนต้น ซึ่งมีพื้นที่ว่างและแสงเพียงพอในการปลูกพืชแซมเพื่อ เพิ่มรายได้ พืชแซมนั้นมีหลากหลายประเภทแต่ปัจจัยที่ควรพิจารณา คือ ความเหมาะสมของพืชแซมกับสภาพ ภูมิอากาศ ความเข้ากันได้กับพืชหลัก ความต้องการของตลาด แรงงาน เงินทุน แหล่งน้า และความสามารถ ของตัวเกษตรกร รวมทั้งความคุ้มค่าทางการเงินของการลงทุนปลูกพืชแซมในระยะยาว การเลือกปลูกพืชแซม ที่เหมาะสมส่งผลมีรายได้เพิ่ม ลดปัญหาวัชพืช ลดการสูญเสียธาตุอาหารพืชในดินไปโดยเปล่าประโยชน์ เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เต็มที่ ช่วยอนุรักษ์ดิน และยังจะทาให้เกิดความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน ภาคใต้ นับเป็นภาคที่มีการรับประทานผักมากและเป็นวัฒนธรรมการกินที่เป็นเอกลักษณ์ โดยทานคู่กับอาหารพื้นถิ่น เพื่อช่วยเสริมรสชาติและยังเพิ่มคุณค่าของอาหาร ด้วยผักมีคุณค่าทางโภชนาการ วิตามิน และสารต้านอนุมูล อิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ทั้งด้านการป้องกัน และรักษาโรคความเสื่อมของร่างกาย (นิศารัตน์ ศิริวัฒนเมธานนท์, 2556) รวมทั้งเป็นแหล่งของเส้นใยซึ่งช่วยทาให้ร่างกายขับถ่ายอุจจาระได้เร็วขึ้น ท้องไม่ผูก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลาไส้ใหญ่ ทาให้การดูดซึมน้าตาลเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง ส่งผลให้ลดระดับ