งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร

งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 161 การใช้อินซูลิน และลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งจาก รายงานผลการวิจัยพบว่า มันปู หมุย ผักเหลียง และมะกอกป่า มีเส้นใยอาหารสู ง คือ 16.70, 14.20, 8.80 และ 7.20 มิลลิกรัม/น้าหนักของส่วนที่รับประทานได้ 100 กรัม ตามลาดับ (สายพิณ โชติวิเชียร, 2561) จากการสารวจและสอบถามเกษตรกรผู้ปลูกผักยืนต้นในพื้นที่จังหวัดตรัง ปี 2565 รวม 4 อาเภอ ได้แก่ สิเกา รัษฎา นาโยง และย่านตาขาว พบว่า เกษตรกรที่ปลูกไม้พุ่มกินใบเชิงการค้ามักปลูกแซมในสวนยาง ปาล์ม สวนไม้ผล และพื้นที่ว่างข้างบ้าน โดยนิยมปลูกผักที่ตลาดต้องการเพราะจาหน่ายง่ายและมีราคาสูง เช่น ได้แก่ หมุย ( Clausena cambodiana Guill ) มันปู ( Glochidion wallichianum Muell.Arg. ) มะกอกป่า ( Spondias pinnata (L. f.) Kurz) และผักเหลียง ( Gnetum gnemon ) ส่วนผักหวานช้าง ( Claoxylon longifolium (Blume) Endl. ex Hassk.) นิยมปลูกเฉพาะเขตอาเภอย่านตาขาว จึงต้องการนาพืชเหล่านี้มา ศึกษาด้านลักษณะการเจริญเติบโต ผลผลิต และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในสะตอยังไม่เคยมีการศึกษา พืชแซมมาก่อน วัตถุประสงค์เพื่อได้องค์ความรู้ด้านวิชาการพันธุ์พืชและเทคโนโลยีการจัดการพืชแซมในสวน สะตอที่เหมาะสมในภาคใต้ สาหรับเผยแพร่แก่เกษตรกรเชิงการค้า และเป็นองค์ความรู้แก่เจ้าหน้าที่กรม วิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรใช้เป็นคาแนะนา/ต่อยอดทางการศึกษา รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้จริง สาหรับบุคคลทั่วไป และเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์พืชผักไว้ในชุมชนท้องถิ่น สาหรับอนุชนรุ่นหลังได้รู้จักและเรียนรู้ ถึงประโยชน์และคุณค่าของผักพื้นบ้านที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถใช้เป็นยารักษาโรคที่ไม่มี ผลข้างเคียง ต่อไป วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ (Material and Methodology) สิ่งที่ใช้ในการทดลอง ดาเนินการปลูกต้น มันปู ผักหวานช้าง มะกอกป่า หมุย และผักเหลียง ที่ขยายพันธุ์โดยวิธีตอนกิ่ง โดยปลูกแซมระหว่างแถวของต้นสะตออายุ 15 ปี ยกร่องทาแปลงปลูกขนาดกว้างและยาว 4x8 เมตร ร่องห่าง จากต้นสะตอ 2 เมตร ระยะปลูก 1x1 เมตร จานวน 28 ต้น/แปลง เก็บข้อมูล 12 ต้น/แปลง/ซ้า (มี 4 ซ้า) มีการปฏิบัติดูแลรักษาเหมือนกัน คือ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 5 กิโลกรัม/แปลง/ปี และปุ๋ยคอก 30 กิโลกรัม/แปลง/ปี แบ่งใส่ 3 ครั้ง/ปี โดยวิธีหว่านรอบโคนต้น มีการให้น้า แบบสปริงเกอร์ ทุกวัน และตัดแต่ง ลาต้นและกิ่งในเดือนมีนาคมเพื่อควบคุมความสูงที่ระดับ 1 เมตร การเก็บเกี่ยว โดยตัดตั้งแต่ส่วนของยอดลง มาถึงส่วนที่รับประทานได้และตัดแต่งใบที่เสียหายหรือมีตาหนิออก ผึ่งให้เสด็จน้าแล้วมัดกาและบรรจุใน ถุงพลาสติกใส (ถุงพอลิเอทิลีน) เก็บข้อมูลลักษณะทางการเกษตรของพืชแซมโดยวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของ ลาต้น ความสูงของลาต้น ขนาดทรงพุ่ม และชั่งน้าหนักรวมของยอดผักที่เก็บเกี่ยวทุก 2 สัปดาห์ ประเมินผล กระทบในด้าน ระบบราก โรค และแมลง และวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ ผลและอภิปราย (Result and Discussion) การเจริญเติบโตของพืชแซม ผลการปลูกไม้พุ่มกินใบ 5 ชนิด แซมระหว่างแถวสะตออายุ 15 ปี ที่ช่วงอายุ 2 ปี พบว่า พืชผักทั้ง 5 ชนิดมีการเจริญเติบโตดี และไม่พบอาการผิดปกติที่ใบ และจากการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของข้อมูล พบว่า มันปู มีความแข็งแรงและการเจริญเติบโตเร็วกว่าพืชชนิดอื่น โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางของลาต้นมากที่สุด คือ 46.09 มิลลิเมตร รองลงมาเป็น มะกอกป่า (34.97) หมุย (29.75) ผักหวานช้าง (27) และผักเหลียง (21.84)

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3