งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร

งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 36 เนื่องจากต้องใช้เวลานานในการทดสอบและคัดเลือกเพื่อให้ได้ลักษณะพันธุ์ดีตามที่ตลาดและผู้บริโภคต้องการ ถ้ามีการพัฒนาพันธุ์อ้อยคั้นน้าให้มีความหลากหลายก็จะเป็นโอกาสในการขยายฐานของผู้บริโภค จึงมีความ จาเป็นที่จะต้องทาการวิจัยและพัฒนาหาอ้อยคั้นน้าพันธุ์ใหม่ให้มีคุณภาพที่หลากหลายขึ้น ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และสามารถผลิตได้ตลอดปี ซึ่งจะเป็นทางเลือกและขยายโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน การ ประเมินพันธุ์ในแต่ละสภาพแวดล้อมเป็นขั้นตอนหนึ่งในการคัดเลือกพันธุ์ตามโปรแกรมปรับปรุงพันธุ์พืชของ กรมวิชาการเกษตร เพื่อพัฒนาพันธุ์อ้อยคั้นน้าที่ให้ปริมาณและคุณภาพน้าอ้อยสดเทียบเท่าหรือดีกว่าอ้อยพันธุ์ สุพรรณบุรี 50 และตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมได้ดี วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ (Material and Methodology) การทดลองดาเนินการที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ระหว่างปี 2565-2566 วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design (RCB) มี 3 ซ้า ในแปลงย่อยขนาด 6x8 เมตร ปลูกอ้อยคั้นน้าโคลน พันธุ์ละ 4 แถว ระยะแถวปลูก 1.50x0.50 เมตร หลุมละ 1 ท่อน ท่อนละ 3 ตา โคลนอ้อยคั้นน้าที่ใช้ปลูก ทดสอบเดือนมกราคม 2565 (ปีที่ 1) จานวน 11 โคลนดีเด่นประกอบด้วย KKj16-0001, KKj16-0002, KKj16- 0003, KKj16-0004, KKj16-0005, KKj16-0006, KKj19-29, KKj19-30, KKj20-36, KKJm21-2-4, KKJm21- 2-3 และพันธุ์เปรียบเทียบ 1พันธุ์ ได้แก่สุพรรณบุรี 50 โคลนอ้อยคั้นน้าที่ใช้ปลูกทดสอบเดือนมกราคม 2566 (ปีที่ 2) จานวน 9 โคลนดีเด่นประกอบด้วย KKj17-1-003, KKj17-4-025, KKj17-4-026, KKj17-5-033, KKj17-5-038, KKj17-5-040, KKj17-5-041, KKj17-5-049, KKj17-5-064 มีพันธุ์ตรวจสอบ 2 พันธุ์ได้แก่ สุพรรณบุรี50 และศรีสาโรง1 มีการให้น้าตามร่องหลังปลูก ควบคุมวัชพืชหลังปลูกโดยใช้เพนดิเมทาลินอัตรา 400 ซีซีสารออก ฤทธิ์/ไร่ ร่วมกับอิมาซาพิก อัตรา 50 ซีซีสารออกฤทธิ์/ไร่ ใส่ปุ๋ยเคมีเกรด 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ โดย แบ่งใส่ 2 ครั้งเมื่ออ้อยอายุ 1.5 เดือน และ3 เดือน โรยข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ เมื่ออ้อยอายุ 8-10 เดือน หรือเมื่ออ้อยถึงอายุสุกแก่ขึ้นกับสภาพแวดล้อมตัดลาอ้อยชิดดิน ลอกกาบออก ตัดยอดอ้อยที่ตาแหน่งรอยต่อที่ กาบใบแห้งสุดท้ายจากยอด สุ่มตัดตัวอย่างอ้อยแปลงย่อย 10 ลา โดยชั่งน้าหนักผลผลิตอ้อยตัวอย่าง 10 ลา วัดความยาวลา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลา นับจานวนปล้อง จากนั้นสุ่มเลือกมา 5 ลา โดยชั่งน้าหนักก่อนและ หลังปอกเปลือก โดยปอกเปลือกท่อนอ้อยด้วยมีดสองคม จากนั้นล้างทาความสะอาดและตั้งผึ่งไว้ให้แห้งใน ภาชนะที่สะอาด นาไปหีบคั้นน้าด้วยลูกหีบอ้อยคั้นน้าจานวน 2 ครั้งต่อลาและวัดปริมาณน้าอ้อยสด สุ่มน้าอ้อย วัดคุณภาพ วัดค่าความหวาน (brix) ของน้าอ้อยสดด้วย Hand Refractometer พร้อมทั้งบรรจุน้าอ้อยสดใน ขวดแก้วปิดฝาให้แน่น แล้วนาไปแช่ในถังน้าแข็งอัดเก็บความเย็นด้วยน้าแข็งบด ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนามาตั้ง ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 1 ชั่วโมงก่อนทดสอบคุณภาพโดยการประเมินสีน้าอ้อยด้วยกระดาษเทียบสีมาตรฐานและ ประเมินการยอมรับของผู้ชิม 10 ราย ด้วยแบบสอบถามเปรียบเทียบลักษณะ 5 ลักษณะคือ ความหวาน ความ หอม/กลิ่น สี รสชาติ และความชอบเทียบกับอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 โดยการให้คะแนนตามแบบการชิม (ณรงค์ นิยมวิทย์, 2537) การบันทึกข้อมูลผลผลิตอ้อย องค์ประกอบผลผลิต ปริมาณน้าอ้อยสด ความหวาน คุณภาพน้าคั้น วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้โปรแกรม Star

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3