งานประชุมวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร

งานประชุมวิชาการ “เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2567 ณ ทักษิณาคาร มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง JTAI 2024: The 1 st Conference of Technology and Agricultural Innovation between 1 – 2 August 2024 At Thaksinakhan Thaksin University 55 Abstract The efficiency testing of Trichoderma harzianum ( DOA- TH50) ( Department of Agriculture) to inhibit red rot wilt disease pathogens ( Colletotrichum falcatum Went. and Fusarium verticillioides ( Sacc. ) Nirenberg) in sugarcane was conducted in Khon Kaen Field Crops Research Center (KKFCRC) during October, 2023 to March, 2024. The experimental design was completely randomized design ( CRD) with three replications, 23 isolates of pathogens were collected from sugarcane growing areas throughout the country, the mycelium inhibited testing of C. falcatum and F. verticillioides were carried out by dual culture assay, incubated at 30 º C for 7 days, after that evaluated the radis of pathogen’s colony compared with control and calculated the percentage of pathogen inhibition. The results showed that T. harzianum (DOA-TH50) could inhibit the mycelial growth of C. falcatum and F. verticillioides , causing red rot wilt disease in sugarcane with the differentiation of the percentage inhibition ranged 14- 58%. Further experiment will be conducted in the green house. Keywords: Red Rot Wilt Diseases, Sugarcane, Biological control บทนา (Introduction) เชื้อรา Colletotrichum falcatum Went. และเชื้อรา Fusarium verticillioides (Sacc.) Nirenberg เป็นเชื้อราสาเหตุโรคเหี่ยวเน่าแดงในอ้อย มีรายงานการระบาดและทาความเสียหายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526-2528 ในอ้อยคั้นน้าพันธุ์สิงคโปร์ ในเขตพื้นที่ภาคกลาง (วันทนีย์ อู่วาณิชย์ และอนุสรณ์ กุศลวงศ์, 2529) อ้อยโรงงาน พันธุ์สุพรรณ 1 อีเหี่ยว และ CB38-22 ในเขตปลูกอ้อยภาคตะวันตก พบรายงานพื้นที่เสียหายกว่า 3,000 ไร่ ทาให้ผลผลิตเสียหาย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ต่อมาพบการระบาดทั่วไปในเขตปลูกอ้อยทั้งภาค กลาง ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก (วันทนีย์ อู่วาณิชย์ และคณะ, 2535) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภาคที่มีการปลูกอ้อยมากที่สุด เคยพบการระบาดของโรคเน่าแดงอ้อย ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และ อุดรธานี (เฉลิมพล ไหลรุ่งเรือง และคณะ, 2547) เชื้อรา C. falcatum สามารถเข้าทาลายได้ทางรอยแผลที่ เกิดจากหนอนหรือแผลแตกของลาหรือทางรอยเปิดธรรมชาติ และเชื้อ F. verticillioides อยู่ในดิน สามารถ เข้าทาลายได้ทางรากและโคนต้น โรคนี้ระบาดรุนแรงในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงเช่น ในเขตชลประทานหรือพื้นที่ นา ทาให้ผลผลิตเสียหาย 30-100 เปอร์เซ็นต์ (ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์, 2560) โรคนี้สามารถแพร่ระบาดได้ ทางท่อนพันธุ์ หากนาอ้อยในแหล่งที่มีการระบาดไปปลูกต่อ ถึงแม้อ้อยจะเป็นลาที่แสดงอาการใบเหลือง หรือ ลาที่มีใบเขียวปกติ หากมีเชื้อสาเหตุโรคแฝง ท่อนพันธุ์อ้อยนั้นจะกลายเป็นแหล่งสะสมของโรค เมื่อนาไปปลูก ส่วนใหญ่จะเน่าก่อนงอกพ้นดิน หรือหากงอกก็จะแสดงอาการของโรคและแห้งตายในเวลา 4-6 เดือน ท่อน พันธุ์ที่มีเชื้อแฝงในลักษณะนี้ เป็นปัญหาสาคัญมากยิ่งกว่าท่อนพันธุ์ที่เห็นอาการชัดเจน (Agnihotri et al., 1979) นอกจากนี้ยังแพร่ระบาดโดยการปลิวไปกับลม เชื้อจะมีชีวิตในซากอ้อยในดินได้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน แนวทางการจัดการโรคมีหลายวิธีการ เช่น การใช้พันธุ์ต้านทาน เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ และ ยังเป็นที่นิยมแต่การใช้พันธุ์เดิมเป็นเวลานานอาจมีความเสื่อมของพันธุ์ รวมถึงการเกิดขึ้นของเชื้อโรคสายพันธุ์ ใหม่เรื่อยๆ อาจทาให้เกิดการกลับมาติดเชื้อและรุนแรงได้ การป้องกันกาจัดโรคโดยใช้สารเคมีฉีดพ่นกออ้อยที่

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3