วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ปีที่ 2 ฉบับที่ 2
24 ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของมะม่วงพันธุ์ไทย พันธุ์ต่างประเทศ และพันธุ์ลูกผสม ในศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ Journal of Technology and Agricultural Innovation Vol. 2 No. 2 ( July - December 2024 ) มะม่วง เป็นพืชที่มีการผสมข้ามได้ง่ายตามธรรมชาติ ทำ ให้มีความหลากหลายของสายพันธุ์ มะม่วง พันธุ์ดี หลายพันธุ์เกิดจากการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และเกิดการคัดเลือกโดยเกษตรกรผู้ปลูก ซึ่งพันธุ์ ส่วนใหญ่เหมาะกับการบริโภคภายในประเทศ การปรับปรุงพันธุ์มะม่วงเพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาด ต่างประเทศ จึงต้องมีการคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่ เพื่อให้ได้มะม่วงพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะตรงตาม ของตลาดต่างประเทศ การจำ แนกพันธุ์มะม่วงจึงต้องการเทคนิคที่มีความแม่นย ำ เพื่อใช้ในการคัดเลือก พันธุ์พ่อแม่สำ หรับปรับปรุงพันธุ์ ดังนั้น จึงมีการนำ เครื่องหมายโมเลกุลชนิด Microsatellite หรือ SSR มาตรวจสอบและจำ แนกพันธุ์มะม่วง เนื่องจาก SSR มีความถี่และกระจายอยู่ทั่วจีโนม SSR เป็นบริเวณ ที่มีความแปรปรวนสูง ทำ ให้สามารถตรวจพบความแตกต่างได้ ง่ายในแต่ละตำ แหน่งของ SSR ซึ่งพบ การใช้เครื่องหมาย SSR ในการจำ แนกพันธุ์มะม่วงโดย Kumar et al. (2013) ใช้เครื่องหมายโมเลกุล SSR จำ นวน 20 ไพรเมอร์ ศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของมะม่วง 10 พันธุ์ สามารถ จัดกลุ่มมะม่วงได้ 3 กลุ่ม กลุ่มที่1 มีมะม่วง 3 พันธุ์และมีความหลากหลายมากที่สุด คือ “Kalepad”, “Neelum” และ “Swarnarekha” กลุ่มที่ 2 มีมะม่วง 1 พันธุ์ คือ “Alphonso” และกลุ่มที่ 3 ประกอบด้วย “Rumani”, “Sendura”, “Bangnapalli”, “Himayuddin”, “Mulgoa” and “Bangalora” Begum et al. (2013) ศึกษาความแปรปรวนของมะม่วงพันธุ์ “Cherukurasam” โดยเก็บรวบรวมผล และใบจาก 30 แหล่งในรัฐ Andhra Pradesh ผลการตรวจสอบด้วยเครื่องหมาย SSR จำ นวน 109 พบว่า มี 25 ไพรเมอร์ที่มี Polymorphic สูง แสดงให้เห็นว่ามะม่วงพันธุ์ “Chinnarasam” ที่ปลูกในรัฐ Andhra Pradesh ไม่ได้เป็นโคลนบริสุทธิ์ แสดงให้เห็นว่า เครื่องหมายโมเลกุลไมโครแซทเทลไลท์ สามารถใช้ศึกษาความแปรปรวน ทางพันธุกรรมของมะม่วงได้นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาความ ทางพันธุกรรมในมะม่วงจำ นวน 94 สายพันธุ์ ทำ ให้ได้เครื่องหมายทางพันธุกรรม 6,856 เครื่องหมาย เมื่อแยกวิเคราะห์ตามโครงสร้างประชากร แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 มะม่วงอินเดีย ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ กลุ่มย่อยที่ 1 ได้แก่ “Alphonso”, “Kensington” และ “Zill” กลุ่มย่อยที่ 2 ได้แก่ “Keitt” และ “Books” กลุ่มที่ 2 คือ มะม่วงอินโดจีน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ได้แก่ “แก้วขมิ้น”, “Carabao” และ “Aroomanis” กลุ่มที่ 2 ได้แก่ มะม่วงที่มีแหล่งกำ เนิดในไทย เช่น “ตลับนาค” “น้ำ ดอกไม้ เบอร์ 4” “เขียวเสวย” “หนองแซง” เป็นต้น (หทัยภัทร วงษ์ไทวรรณ, 2563) ซึ่งการใช้ข้อมูลดีเอ็นเอและข้อมูล สัณฐานวิทยา จะทำ ให้เกิดประโยชน์ต่อการปรับปรุงพันธุ์มะม่วงในอนาคต สรุปผล (Conclusion) การศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของมะม่วงพันธุ์ไทย พันธุ์ต่างประเทศ และพันธุ์ลูกผสม ในมะม่วงจำ นวน 24 สายพันธุ์ ประกอบด้วย มะม่วงพันธุ์ไทยกลุ่มน้ำ ดอกไม้ มะม่วงต่างประเทศ และ มะม่วงลูกผสมที่ มีลักษณะคล้ายน้ำ ดอกไม้ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมสามารถแบ่งกลุ่ม มะม่วงได้เป็น 7 กลุ่ม โดย พบว่าในกลุ่มที่ 1 และ 2 เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยมะม่วงพันธุ์ไทย ในกลุ่มน้ำ ดอกไม้และมะม่วงลูกผสมจาก แม่น้ำ ดอกไม้ และมะม่วงพันธุ์ต่างประเทศ คือ Sensation และ Aroomanis แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดทางพันธุกรรมของมะม่วงทั้ง 2 พันธุ์กับมะม่วงกลุ่มน้ำ ดอกไม้ ในขณะที่กลุ่มที่ 3 ถึง 7 ประกอบด้วยมะม่วงพันธุ์ ต่างประเทศทั้งหมด ความต้องการ ไพรเมอร์ หลากหลาย
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3