วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ปีที่ 2 ฉบับที่ 2

32 Journal of Technology and Agricultural Innovation Vol. 2 No. 2 ( July - December 2024 ) ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดหยาบของกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ (Cluster Bomb) และสายพันธุ์ไทย (Thai Stick) ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ Ferric reducing antioxidant power (FRAP) ของสารสกัดกัญชาสองสายพันธุ์ ผลการทดลองพบว่าสารสกัดกัญชาจากส่วนของใบ ดอกและลำ ต้นของสายพันธุ์ Cluster Bomb และสายพันธุ์ Thai Stick มีค่าปริมาณความเข้มข้น Fe ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเมื่อเพิ่มปริมาณสารสกัด เช่นเดียวกัน ไม่ว่าเป็นสารสกัดจากส่วนของใบ ดอก หรือลำ ต้น (ภาพที่ 2) นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัด จากดอกของสายพันธุ์ Cluster Bomb มีค่าปริมาณความเข้มข้น Fe ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับสารสกัดจาก ส่วนของใบและลำ ต้น โดยสามารถเปลี่ยน Fe เป็น Fe ที่ความเข้มข้น 1,000 mg/mL ได้ค่าความเข้ม ของ Fe ประมาณ 3500 ในขณะที่ค่าปริมาณความเข้มข้น Fe จากสารสกัดส่วนของดอกจากสายพันธุ์ Thai Stick มีประมาณ 1,300 เมื่อเปรียบเทียบความเข้มข้นทั้งสองชนิดดังกล่าวยังพบความแตกต่าง อย่างมีนัยสำ คัญในทุกความเข้มข้น (ภาพที่ 2A) นอกจากนี้ ยังพบว่าสารสกัดจากสายพันธุ์ Thai Stick และ Cluster Bomb ในส่วนของใบและลำ ต้นมีค่าปริมาณความเข้มข้น Fe น้อยมากเมื่อเทียบกับสาร ที่ได้จากส่วนดอก โดยมีค่า Fe ที่ความเข้มข้นของสารสกัดสูงสุด (1,000 mg/mL) ประมาณ 1000 และ ยังพบว่าค่า Fe ทุกความเข้มข้นของสารสกัดจากสายพันธุ์ Thai Stick มีมากกว่าสารสกัดจากสายพันธุ์ Cluster Bomb (ภาพที่ 2C) ดังนั้นจากการทดลองนี้สามารถบ่งบอกได้ว่าการเป็น reducing power สารสกัดกัญชาจากส่วนของดอกจากสายพันธุ์ Cluster Bomb มีฤทธิ์การเป็นต้านอนุมูลอิสระที่เป็น reducing antioxidant power ยังคงสูงกว่าสายพันธุ์ Thai Stick ถึงแม้ว่าสารสกัดในส่วนของใบและ ลำ ต้นของสายพันธุ์ Thai Stick สูงกว่าสายพันธุ์ Cluster Bomb ก็ตามแต่ยังคงอยู่ในปริมาณที่น้อย ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับประกอบหลักอื่นๆ ที่มีฤทธิ์ในการเป็น reducing power ในกัญชงของสายพันธ์ไทยอาจจะ มีมากก็ตามแต่อย่างไรค่าปริมาณ Fe ของสายพันธ์ Cluster Bomb ในส่วนสารสกัดที่ได้จากดอกยังมีค่า ที่มากว่ามากและยังคงมีแน้วโน้มเป็นพืชมีศักย์ในการสกัดสารที่มีฤทธิ์ดีเช่นกัน 2+ 2+ 2+ 3+ ข้น 2+ 2+ 2+ สกัด 2+ 2+ 2+