วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ปีที่ 2 ฉบับที่ 2

35 ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดหยาบของกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ (Cluster Bomb) และสายพันธุ์ไทย (Thai Stick) Journal of Technology and Agricultural Innovation Vol. 2 No. 2 ( July - December 2024 ) สรุปผล (Conclusion) สายพันธุ์กัญชา Thai Stick และ Cluster Bomb มีความแตกต่างกันทั้งทางด้านลักษณะทางกายภาพ และคุณสมบัติทางเคมี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการใช้งานและคุณค่าทางสุขภาพของสองสายพันธุ์นี้ที่โดดเด่น แตกต่างกันไป โดยทั่วไปลักษณะทางกายภาพของกัญชาสายพันธุ์ Thai Stick มีลักษณะที่สูงและแข็ง (Somman et al., 2022) ส่วน Cluster Bomb นั้นมีลักษณะที่สั้นและกว้าง และทำ ให้สายพันธุ์ Thai Stick มักจะมีการเก็บเกี่ยวที่อายุมากกว่า Cluster Bomb (Gilbert & Diverdi 2018) ส่วนทางด้านคุณสมบัติทาง เคมี ผู้ทดลองได้ทำ การการทดสอบฤทธิ์ antioxidant activity ด้วยวิธี DPPH assay พบว่า Cluster Bomb มีฤทธิ์ที่สูงกว่า Thai Stick แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจาก Cluster Bomb สามารถยับยั้งการเกิด free radical ได้มากกว่า Thai Stick โดยเฉพาะเมื่อเข้มข้นสารสกัดเพิ่มขึ้น ในการทดสอบฤทธิ์ antioxidant activity ด้วยวิธี FRAP assay พบว่า Thai Stick มีฤทธิ์ที่สูงกว่า Cluster Bomb แสดงให้เห็นว่าสารสกัด จาก Thai Stick สามารถลดการเกิด free radical และยับยั้งการเกิด lipid peroxidation ได้ดีกว่า Cluster Bomb ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันของสองสายพันธุ์นี้ การเลือกใช้สายพันธุ์กัญชงจึงต้อง ถึงวัตถุประสงค์และสิ่งที่ต้องการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการตามความต้องการของผู้ใช้งาน แรง พิจารณา โดยทั่วไป Thai Stick และ Cluster Bomb ทั้งสองสายพันธ์นี้เป็นที่รู้จักกันดี ว่าเป็นสายพันธุ์กัญชง ที่นิยมปลูกกันทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ Thai Stick หรือพันธุ์หางกระรอกเป็นพืชกัญชาที่มีลักษณะ ลำ ต้นและใบที่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ โดยใบและลำ ต้นของกัญชงสายพันธ์นี้มีความเรียวยาว ลักษณะใบ เป็นแบบยาวแบนและเรียวเล็กน้อย มีสีเขียวเข้มและใบจะมีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่นๆ มีขนที่ลำ ต้น เป็นสีแดงเหรอน้ำ ตาลส้ม ดอกมีขนาดใหญ่และมีความเข้มข้นของ THC สูงกว่าสายพันธุ์อื่น มีกลิ่นหอม อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไปจากสายพันธุ์อื่นๆ จุดเริ่มต้นของสายพันธุ์นี้ พบตามพื้นที่ที่ต่ำ กว่าระดับ น้ำ ทะเล ซึ่งทำ ให้สายพันธุ์นี้มีความเข้มแข็งและทนทานต่อสภาพอากาศที่มีความหลายหลายได้สายพันธุ์ นี้มีต้นกำ เนิดมาจากประเทศไทยและสายพันธุ์นี้เคยเป็นที่นิยมในแดววงกัญชาในสหรัฐอเมริกาอย่างมาก ในช่วงปี 1970 อีกทั้งเป็นสายพันธุ์กัญชาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ รวมถึงประเทศญี่ปุ่น (Somman et al., 2022) ในขณะที่สายพันธุ์ Cluster Bomb เป็นสายพันธุ์กัญชงที่เกิด มาจากการผสมของสายพันธุ์ Cannabis sativa และ Cannabis indica โดยมีลักษณะลำ ต้นที่เตี้ยมากกว่า สายพันธุ์ Thai Stick แต่มีอัตราส่วน THC/CBD ที่สูงกว่า ซึ่งทำ ให้เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ในการใช้ทางการแพทย์ (Muro & Castella 2021) และกำ ลังเป็นที่นิยมในการใช้เป็นส่วนผสมใน ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เช่น น้ำ มันกัญชา ครีมกัญชา และผลิตภัณฑ์สำ หรับสุขภาพทางเลือก อื่นๆ (Casiraghi et al., 2020) (Alzeer et al., 2021) (Hsu et al., 2021) สายพันธุ์นี้มีลักษณะใบเลี้ยงเรียว สีเขียวเข้ม ก้านใบสีแดง และต้นไม่สูง มักจะมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วจึงไม่จำ เป็นต้องการเวลานาน ในการปลูก และยังสามารถปลูกได้หลายฤดู นอกจากนี้พืชนิดนี้ยังมีความต้านทานต่อโรคและแมลงที่สูง กว่าสายพันธุ์อื่นๆ (Jin et al., 2021) ทำ ให้เกษตรกรสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมีในการป้องกัน กำ จัดศัตรูพืช ในทางการเกษตรสายพันธุ์นี้นิยมปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวดอกลำ ต้น เพื่ออุตสหกรรมเส้นใยและ ใบซึงมีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงในตลาดสินค้ากัญชา (Gloss , 2015) (Stepanink & Kanani, 2021) นอกจากนี้ผู้ทำ การทดลองยังพบว่า สารสกัดจากดอกของกัญชงทั้งสองสายพันธุ์มีฤทธิ์มากกว่า สารสกัดที่ได้จากใบและลำ ต้น เนื่องจากชื่อหรือดอกมีการสะสมของสารสำ คัญอย่างสารทุติยภูมิในพืช (secondary metabolites) ที่มีฤทธิ์สูง เช่น โปลิเพนออยด์, ฟลาโวนอยด์, แอนโทไซยานิน และอื่นๆ ที่มี คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) (Siracusa et al., 2023) (Milay et al., 2020) (Melzer et al., โดยดอกของกัญชงมีสารสำ คัญที่พบได้หลายชนิด และบางชนิดอาจพบได้เฉพาะที่ดอกและไม่สามารถ พบได้ในใบและลำ ต้น เนื่องจากดอกเป็นส่วนสำ คัญในการผลิตเมล็ดพันธุ์สารสำ คัญที่พบในใบและ 2022) ลำ ต้น