วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ปีที่ 2 ฉบับที่ 2

43 ผลของวัสดุปลูกร่วมกับการจัดการปุ๋ยต่อการเจริญเติบโต ทางด้านลำ ต้นและผลผลิตของกัญชาสายพันธุ์หางกระรอก Journal of Technology and Agricultural Innovation Vol. 2 No. 2 ( July - December 2024 ) บทนำ (Introduction) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นกัญชาเป็นไม้ล้มลุก มีความสูงตั้งแต่ 1-3 เมตร ลำ ต้นมีลักษณะ เป็นเหลี่ยม ตั้งตรง มีขนาดเล็ก มีขนสีเขียวอมเทาและไม่ค่อยแตกสาขา ใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ ออกเรียง ตรงข้าม ลักษณะใบแตกออกเป็นแฉกๆ ประมาณ 5-9 แฉก แต่ละแฉกเป็นรูปยาวรีปลายและโคนสอบ ขอบใบทุกแฉกเป็นหยักฟันเลื่อย ขนาดกว้างประมาณ 0.3-1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร เป็นแบบแยกเพศ ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะแยกกันอยู่คนละต้น ออกดอกเป็นช่อที่ง่ามใบหรือปลาย กิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว (สุรศักดิ์ อิ่มเอี่ยม และคณะ, 2562) เป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาไทยและ ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น รักษามะเร็ง ยากันชัก ลดอาการปวด เนื่องจากมีองค์ประกอบสารเคมี ที่สำ คัญ สารกลุ่มแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) และสารกลุ่มเทอร์พีนอยด์ (Terpenoids) (พรชัย สินเจริญโภไคย และคณะ, 2564) กัญชาสายพันธุ์ไทยหางกระรอก (Thai stick) เป็นสายพันธุ์แท้ดั้งเดิม ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติบนเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร ที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดีที่สุด มีปริมาณสารสำ คัญ Tetrahydrocannabinol (THC) และ Cannabidiol (CBD) ในแต่ละช่วงอายุดอกตามลักษณะสีของไตรโคม แตกต่างกันไปคือ สาร THC ไตรโคม : สีใส 2.4 สีขาวขุ่น 15.8 สีเหลืองอำ พัน 10.5 เปอร์เซ็นต์ และ สาร CBD ไตรโคม : สีใส 4.6 สีขาวขุ่น 0.7 สีเหลืองอำ พัน 0.3 เปอร์เซ็นต์ (หนึ่ง เตียอำ รุง และคณะ, 2564) การนำ กัญชาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จะต้องมีความปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง การปลูก โดยใช้กระถาง จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการผลิตกัญชาแบบปลอดภัย ในการปลูกพืชทั่วไปมักมีการเพิ่ม ปริมาณธาตุอาหารให้กับต้นเพื่อการเจริญเติบโตและปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่นิยม ใช้ปุ๋ยเคมีเนื่องจากพืชสามารถดูดและเจริญเติบโตได้รวดเร็ว แต่การใช้ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเนื่องทำ ให้ ดินมีปัญหา ปุ๋ยเคมีกลุ่มของปุ๋ยไนโตรเจนกลุ่มแอมโมเนียม เช่น แอมโนเนียมซัลเฟต และยูเรีย เมื่อใช้ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะส่งผลให้ดินเป็นกรด (สรสิทธิ์ วัชโรทยาน, 2564) ปัจจุบันจึงมีการส่งเสริม ให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์นอกจากมีธาตุอาหารหลักแล้ว ยังมีธาตุอาหารรอง ด้วย (Sooksawat, 2004) (Khasa et al, 2005) (Calile, 2008) การปลูกพืชในกระถางพืชจะถูกจำ กัดขอบเขต อยู่ภายในกระถางเท่านั้น วัสดุปลูกที่นำ มาใช้จึงต้องมีความอุดมสมบูรณ์ มีธาตุอาหารครบถ้วนและเพียง มีความร่วนซุย และอุ้มน้ำ ได้ดี วัสดุปลูกที่ดีควรมีอัตราส่วนของน้ำ และอากาศ ประมาณ 50 : 50 ไม่มี การอัดหรือยุบตัว เมื่อเปียกน้ำ หรือใช้ไปนานๆ รากพืชสามารถแผ่กระจายได้สะดวกทั่วทุกส่วนของวัสดุ ปลูก (Chumthong & Pakdeechanuan, 2019) เป็นวัสดุที่ไม่มีสารที่เป็นพิษต่อพืชเจือปนอยู่ ไม่ทำ ปฏิกิริยา กับสารละลายธาตุอาหารและภาชนะที่ใช้บรรจุ มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุต่ำ และเป็นวัสดุที่ ไม่เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง (Nonthakit, 2012) (Supinrach & Supinrach, 2018) และที่สำ คัญ ต้องเป็นวัสดุที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น มีราคาถูกและน้ำ หนักเบา มีธาตุอหารเพียงพอต่อการเจริญ เติบโต ได้แก่ มูลวัวที่มีสารประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น ไนโตรเจน (N) ทั้งหมด 1.73 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P O ) 0.49 เปอร์เซ็นต์ และโพแทสเซียม (K O) ทั้งหมด 0.49 เปอร์เซ็นต์ และธาตุอาหารรอง แคลเซียม (Ca) 0.55 เปอร์เซ็นต์ แมกนีเซียม (Mg) 0.22 เปอร์เซ็นต์ ซัลเฟอร์ (S) 0.05 เปอร์เซ็นต์ (กรมส่งเสริมการเกษตร, 2551) แกลบเผาเป็นวัสดุปรับปรุงดิน เพื่อเพิ่มความร่วนซุยของ ดินอุ้มน้ำ ได้ดีและดูดซับสารมลพิษต่างๆ มีแร่ธาตุบางชนิด ได้แก่ ซิลากาออกไซด์ SiO 85-97 เปอร์เซ็นต์ โปแตสเซียมออกไซด์ (K O) 2.3 เปอร์เซ็นต์ แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) 0.5 เปอร์เซ็นต์ อะลูมิเนียม ออกไซด์ (Al O) 0.4 เปอร์เซ็นต์ แคลเซียมออกไซด์ (CaO) 0.4 เปอร์เซ็นต์ เหล็กออกไซด์ (Fe O ) 0.2 เปอร์เซ็นต์ โซเดียมออกไซด์ (Na O) 0.1 เปอร์เซ็นต์ (พืชเกษตร.คอม, 2560) ขุยมะพร้าวช่วยให้วัสดุ ปลูกอุ้มน้ำ ได้ดีขึ้นและมีสารประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น ไนโตรเจน 0.67 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัส 3,477 ppm และโพแทสเซียม 6,114 ppm (ปรียาภรณ์ แนมใส, 2546) มาผสมกับหน้าดินชุดบางนารา ซึ่งมีปริมาณธาตุอาหารหลัก อินทรียวัตถุต่ำ (สำ นักสำ รวจและวิจัยทรัพยากรดิน, 2561) เป็นดินที่หาได้ โครงสร้าง พอ 2 5 2 2 2 2 2 3 2 ง่าย

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3