วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ปีที่ 2 ฉบับที่ 2

วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ (Material and Methodology) 48 Journal of Technology and Agricultural Innovation Vol. 2 No. 2 ( July - December 2024 ) ผลของวัสดุปลูกร่วมกับการจัดการปุ๋ยต่อการเจริญเติบโต ทางด้านลำ ต้นและผลผลิตของกัญชาสายพันธุ์หางกระรอก น้ำ หนักแห้ง พบว่า ทุกทรีตเมนต์ส่งผลต่อน้ำ หนักแห้งราก น้ำ หนักแห้งใบ น้ำ หนักแห้งกิ่งก้าน น้ำ หนักแห้งดอก และน้ำ หนักแห้งรวมไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่พบว่าการปลูกที่ไม่มีการใส่ปุ๋ย ส่งผลต่อน้ำ หนักแห้งราก น้ำ หนักแห้งใบ น้ำ หนักแห้งกิ่งก้าน และน้ำ หนักแห้งรวมสูงสุด 37.50 123.36 231.53 และ 447.47 กรัม ตามลำ ดับ ส่วนการปลูกที่ใส่มูลวัวร่วมกับปุ๋ยเคมีและปุ๋ยยูเรียส่งผลต่อน้ำ หนัก แห้งดอกสูงสุด 74.98 กรัม (ตารางที่ 7) ตารางที่ 7 เปรียบเทียบการจัดการปุ๋ยต่อน้ำ หนักแห้งกัญชาสายพันธุ์หางกระรอกที่ปลูกในโรงเรือน ns = ไม่แตกต่างทางสถิติ ค่าเฉลี่ยที่มีอักษรต่างกัน ในคอลัมน์เดียวกัน แตกต่างกันทางสถิติทดสอบด้วย DMRT จากการศึกษาผลข งกา จัดการปุ๋ยต่อก เจริญเติบโตทางด้านลำ ต้นและผลผลิตของกัญชาสายพันธุ์ หางกระรอก พบว่าการใช้ดินผสมที่มีส่วนผสมของหน้าดิน : มูลวัว : แกลบเผา : ขุยมะพร้าว อัตราส่วน โดยปริมาตร 2 : 1 : 0.5 : 0.5 โดยไม่มีการใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมตลอดอายุการเก็บเกี่ยวสามารถให้ธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารรองที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตของกัญชาที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านความสูง เส้นผ่าศูนย์กลางต้น จำ นวนข้อ ขนาดทรงพุ่ม น้ำ หนักสดรวม และน้ำ หนักแห้งรวม สูงสุด จึงสามารถส่งเสริมให้เกษตรกรใช้วิธีการนี้เพื่อนำ ไปผลิตกัญชาในเชิงพาณิชย์ได้ สรุปผล (Conclusion) จากการศึกษา ผลของการจัดการปุ๋ยทั้ง 4 ทรีตเมนต์ การปลูกที่ไม่ใส่ปุ๋ยส่งผลต่อการเจริญเติบโต ทั้งด้านความสูงต้น เส้นผ่าศูนย์กลางต้น จำ นวนข้อ สูงสุด และมีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัย กับการปลูกทรีตเมนต์อื่น ทั้งนี้เนื่องจากดินที่มีมูลวัวเป็นส่วนผสมจะมีความร่วนซุย ระบายน้ำ ได้ดีและ มีธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารรองที่กัญชาต้องการอย่างเพียงพอและเหมาะสม จึงส่งผลต่อการเจริญ เติบโตที่ดีของระบบราก และการเจริญเติบโตทางลำ ต้นเหนือดินสูง ดังนั้นการเติมปุ๋ยระหว่างการปลูก อาจส่งผลต่อปริมาณไนโตรเจนที่มากเกินความต้องการของกัญชา จึงส่งผลให้ยับยั้งการเจริญเติบโตของ ระบบรากแก้ว ดังนั้นเมื่อระบบรากไม่แข็งแรงจึงส่งผลให้ยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชส่วนที่อยู่เหนือดิน ตามไปด้วย (Ramkhamheang University, 2001) (Comfort et al., 1988) (Wang et al., 2005) ศึกษา การตอบสนองของรากต่อการได้รับและสะสมไนโตรเจนในข้าวโพด โดยให้ไนโตรเจนที่มีความเข้มข้น 4 ระดับ คือ 0.04, 0.2, 2.00 และ 4.00 พบว่าการให้ไนโตรเจนข้าวโพดในระดับความเข้มข้นสูง 2.00 และ 4.00 มิลลิโมห์ ให้ความยาวรากแขนงสูงก็จริงแต่จะไปจำ กัดความยาวของรากแก้วและรากฝอย เนื่องจาก ระดับไนโตรเจนที่สูง จะส่งผลต่อการลำ เลียงสารสังเคราะห์ที่ได้จากการสังเคราะห์แสงไปยังส่วนต่างๆ สำ คัญ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3